นายคิม ไชยแสนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวถึงการปรับลดงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2553 จากเดิมที่ตั้งไว้ 1.9 ล้านล้านบาท หรือ 1.7 ล้านล้านบาท ว่าเป็นการช็อกความรู้สึก และแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลยอมจำนน และรับกับวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นขณะนี้
อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวต่อไปว่า เป็นโอกาสที่ดีที่รัฐบาลจะเปลี่ยนโครงสร้างการผลิต ให้ผู้ประกอบการขายสินค้าในตลาดโลกด้วยตนเอง จากเดิมที่รับจ้างผลิตให้กับประเทศพัฒนาแล้ว โดยรัฐบาลจะต้องเป็นผู้ลงทุนเองในช่วงเริ่มต้น
ส่วนโครงสร้างการใช้จ่ายปัจจุบันพึ่งพาการส่งออก ต้องเปลี่ยนมาเป็นการใช้จ่ายในประเทศให้มากขึ้น โดยการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ไม่เพียงเฉพาะการลงทุนด้านรถไฟเท่านั้น ยังลงทุนด้านการชลประทานพัฒนาแหล่งน้ำ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งการสร้างงาน และยังเป็นประโยชน์ในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำให้กับเกษตรกรด้วย
นอกจากนี้ยังเห็นว่า รัฐบาลควรกู้เงินในประเทศ เพราะการกู้จากต่างประเทศนอกจากจะต้องเสียดอกเบี้ยให้กับต่างประเทศ หากมีเงินสกุลดอลลาร์เข้ามามาก ก็จะทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออก รวมทั้งเป็นการแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจของประเทศถึงขั้นวิกฤต
อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวต่อไปว่า เป็นโอกาสที่ดีที่รัฐบาลจะเปลี่ยนโครงสร้างการผลิต ให้ผู้ประกอบการขายสินค้าในตลาดโลกด้วยตนเอง จากเดิมที่รับจ้างผลิตให้กับประเทศพัฒนาแล้ว โดยรัฐบาลจะต้องเป็นผู้ลงทุนเองในช่วงเริ่มต้น
ส่วนโครงสร้างการใช้จ่ายปัจจุบันพึ่งพาการส่งออก ต้องเปลี่ยนมาเป็นการใช้จ่ายในประเทศให้มากขึ้น โดยการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ไม่เพียงเฉพาะการลงทุนด้านรถไฟเท่านั้น ยังลงทุนด้านการชลประทานพัฒนาแหล่งน้ำ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งการสร้างงาน และยังเป็นประโยชน์ในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำให้กับเกษตรกรด้วย
นอกจากนี้ยังเห็นว่า รัฐบาลควรกู้เงินในประเทศ เพราะการกู้จากต่างประเทศนอกจากจะต้องเสียดอกเบี้ยให้กับต่างประเทศ หากมีเงินสกุลดอลลาร์เข้ามามาก ก็จะทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออก รวมทั้งเป็นการแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจของประเทศถึงขั้นวิกฤต