นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวหลังการประชุม กกร.ว่า ที่ประชุม กกร.ได้หารือประเด็นการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง และสรุปว่า กกร.ยืนยันให้รัฐบาลทำตามกฎหมาย ใช้กฎหมายให้เข้มแข็งชัดเจน แต่ไม่ควรใช้ความรุนแรง
นายสันติ กล่าวว่า หากมีการใช้ความรุนแรงจะก่อให้เกิดปัญหา ทั้งการท่องเที่ยวและการลงทุนที่จะได้รับผลกระทบและจะตกเป็นข่าวไปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ สังคม และเกิดผลเสียต่อประเทศชาติ อย่างไรก็ตาม กกร.ไม่อยากให้การชุมนุมยืดเยื้อ เพราะจะเกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งประเทศไทยมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง น่าจะเดินตามระบอบประชาธิปไตย โดยนำความเห็นที่แตกต่างไปพูดคุยในสภา กกร.เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะไม่ประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือใช้ความรุนแรง และเอกชนหวังว่าจะไม่เกิดความรุนแรง หากการชุมนุมยืดเยื้ออยู่ในกรอบก็จะไม่ส่งผลกระทบมากนัก อย่างไรก็ตาม หากวันพรุ่งนี้ (8 เม.ย.) มีความรุนแรงเกิดขึ้น ก็อาจจะเรียกประชุมนัดพิเศษ เพื่อหารือถึงสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจขณะนี้ ประธาน กกร. กล่าวว่า หลังประชุมกลุ่มจี 20 ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีกว่าที่คาด และจีนใช้เงินจำนวนมากกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น หากประเทศขนาดใหญ่ในโลกมีเศรษฐกิจดีขึ้น เศรษฐกิจไทยก็คงจะดีตาม คาดว่าจะเริ่มเห็นเศรษฐกิจดีขึ้นปลายไตรมาส 2 และ 3 และจากการหารือกับผู้ส่งออกพบว่าคำสั่งซื้อจากต่างประเทศไม่ลดลงมากนัก และเริ่มมีการต่อรองราคาแล้ว ถือว่าสถานการณ์ดีขึ้นกว่าช่วงต้นปี เพราะต่างชาติระบายสตอกสินค้าเก่าเกือบหมด และเมื่อเงินอัดฉีดเศรษฐกิจได้ผลก็จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วขึ้น ซึ่งไทยก็จะได้รับอานิสงส์
นายสันติ กล่าวว่า หากมีการใช้ความรุนแรงจะก่อให้เกิดปัญหา ทั้งการท่องเที่ยวและการลงทุนที่จะได้รับผลกระทบและจะตกเป็นข่าวไปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ สังคม และเกิดผลเสียต่อประเทศชาติ อย่างไรก็ตาม กกร.ไม่อยากให้การชุมนุมยืดเยื้อ เพราะจะเกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งประเทศไทยมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง น่าจะเดินตามระบอบประชาธิปไตย โดยนำความเห็นที่แตกต่างไปพูดคุยในสภา กกร.เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะไม่ประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือใช้ความรุนแรง และเอกชนหวังว่าจะไม่เกิดความรุนแรง หากการชุมนุมยืดเยื้ออยู่ในกรอบก็จะไม่ส่งผลกระทบมากนัก อย่างไรก็ตาม หากวันพรุ่งนี้ (8 เม.ย.) มีความรุนแรงเกิดขึ้น ก็อาจจะเรียกประชุมนัดพิเศษ เพื่อหารือถึงสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจขณะนี้ ประธาน กกร. กล่าวว่า หลังประชุมกลุ่มจี 20 ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีกว่าที่คาด และจีนใช้เงินจำนวนมากกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น หากประเทศขนาดใหญ่ในโลกมีเศรษฐกิจดีขึ้น เศรษฐกิจไทยก็คงจะดีตาม คาดว่าจะเริ่มเห็นเศรษฐกิจดีขึ้นปลายไตรมาส 2 และ 3 และจากการหารือกับผู้ส่งออกพบว่าคำสั่งซื้อจากต่างประเทศไม่ลดลงมากนัก และเริ่มมีการต่อรองราคาแล้ว ถือว่าสถานการณ์ดีขึ้นกว่าช่วงต้นปี เพราะต่างชาติระบายสตอกสินค้าเก่าเกือบหมด และเมื่อเงินอัดฉีดเศรษฐกิจได้ผลก็จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วขึ้น ซึ่งไทยก็จะได้รับอานิสงส์
