น.พ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นช่วงปิดเทอม และปัญหาที่มักพบทุกปีในช่วงนี้คือ เด็กจมน้ำเสียชีวิต เนื่องจากธรรมชาติของเด็กมักชอบเล่นน้ำ และเมื่อสภาพอากาศร้อนเด็กก็มักลงเล่นน้ำในสระ หรือแม่น้ำ โดยที่ไม่ทราบระดับความลึกของน้ำ
จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า การจมน้ำเกิดขึ้นบ่อยมากในบ่อน้ำ ทะเลสาบ แม่น้ำ รวมทั้งในสระน้ำ นอกจากนี้ยัง พบว่าอ่างน้ำในบ้าน นับเป็นจุดเสี่ยงของการเสียชีวิตของเด็กวัยต่ำกว่า 4 ขวบ ซึ่งเด็กวัยนี้สามารถจมน้ำได้ในน้ำที่มีระดับเพียง 1-2 นิ้ว เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่เข้าใจอันตรายที่อาจเกิดขึ้น และช่วยเหลือตนเองไม่เป็น จึงขอให้ผู้ปกครองระมัดระวังดูแลบุตรหลานเป็นพิเศษ อย่าปล่อยให้ลงไปเล่นน้ำโดยลำพัง
น.พ.สุพรรณ กล่าวอีกว่า จากการวิเคราะห์สถานการณ์การจมน้ำในประเทศไทย แต่ละปีมีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำเสียชีวิตกว่า 1,500 คน เฉลี่ยวันละ 4 คน เด็กไทยอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ยังมีอัตราการเสียชีวิตจากการจมน้ำสูงกว่าวัยอื่นถึง 3-5 เท่า เด็กผู้ชายมีสัดส่วนการเสียชีวิตสูงกว่าเด็กผู้หญิง 2-5 เท่า โดยจมน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น บ่อน้ำ ทะเลสาบ แม่น้ำ สระว่ายน้ำ และอ่างน้ำภายในบ้าน
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับการเสียชีวิตในทุกสาเหตุพบว่าการจมน้ำเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ในประเทศไทยเสียชีวิตสูงสุด มากกว่าโรคติดเชื้อและโรคไม่ติดเชื้อ และสูงกว่าอุบัติเหตุจราจรถึง 2 เท่า พบมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมาคือ ภาคกลาง ภาคเหนือและภาคใต้ นอกจากนี้พบว่าช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เป็นช่วงที่พบเด็กจมน้ำมากที่สุด มักเกิดมากที่สุดในช่วงเวลาบ่ายเนื่องจากเป็นช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนกว่าช่วงอื่น ๆ
จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า การจมน้ำเกิดขึ้นบ่อยมากในบ่อน้ำ ทะเลสาบ แม่น้ำ รวมทั้งในสระน้ำ นอกจากนี้ยัง พบว่าอ่างน้ำในบ้าน นับเป็นจุดเสี่ยงของการเสียชีวิตของเด็กวัยต่ำกว่า 4 ขวบ ซึ่งเด็กวัยนี้สามารถจมน้ำได้ในน้ำที่มีระดับเพียง 1-2 นิ้ว เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่เข้าใจอันตรายที่อาจเกิดขึ้น และช่วยเหลือตนเองไม่เป็น จึงขอให้ผู้ปกครองระมัดระวังดูแลบุตรหลานเป็นพิเศษ อย่าปล่อยให้ลงไปเล่นน้ำโดยลำพัง
น.พ.สุพรรณ กล่าวอีกว่า จากการวิเคราะห์สถานการณ์การจมน้ำในประเทศไทย แต่ละปีมีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำเสียชีวิตกว่า 1,500 คน เฉลี่ยวันละ 4 คน เด็กไทยอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ยังมีอัตราการเสียชีวิตจากการจมน้ำสูงกว่าวัยอื่นถึง 3-5 เท่า เด็กผู้ชายมีสัดส่วนการเสียชีวิตสูงกว่าเด็กผู้หญิง 2-5 เท่า โดยจมน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น บ่อน้ำ ทะเลสาบ แม่น้ำ สระว่ายน้ำ และอ่างน้ำภายในบ้าน
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับการเสียชีวิตในทุกสาเหตุพบว่าการจมน้ำเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ในประเทศไทยเสียชีวิตสูงสุด มากกว่าโรคติดเชื้อและโรคไม่ติดเชื้อ และสูงกว่าอุบัติเหตุจราจรถึง 2 เท่า พบมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมาคือ ภาคกลาง ภาคเหนือและภาคใต้ นอกจากนี้พบว่าช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เป็นช่วงที่พบเด็กจมน้ำมากที่สุด มักเกิดมากที่สุดในช่วงเวลาบ่ายเนื่องจากเป็นช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนกว่าช่วงอื่น ๆ
