xs
xsm
sm
md
lg

ประเมินผลใครได้ใครเสียจากการประชุมซัมมิตจี20

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บรรดาผู้นำกลุ่มจี20 ที่เข้าร่วมการประชุมในกรุงลอนดอน ไม่ได้มีความคิดเห็นและผลประโยชน์ที่สอดคล้องกันไปเสียหมด ในด้านหนึ่งก็เหมือนกับว่าพวกเขามีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องการจัดลำดับความสำคัญของบรรดาวิธีแก้ไขวิกฤตระหว่างประเทศครั้งนี้ และต่างก็พยายามผลักดันให้วิธีของตนได้รับการยอมรับ เราจะไปดูว่า มีใครเสนอเรื่องอะไรและได้อะไรไปบ้าง

**การตั้งงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ**
ท่าทีของประเทศต่าง ๆ: สหรัฐฯ, ญี่ปุ่นและอังกฤษเป็นผู้นำเสนอเรื่องนี้แข็งขันที่สุด โดยหวังจะให้ประเทศต่าง ๆทั่วโลกอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ฝรั่งเศสและเยอรมนีเป็นผู้นำกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยเพราะต้องการจะรอผลของมาตรการที่ใช้ไปก่อนหน้านี้เสียก่อน
ผล:ที่ประชุมไม่ได้มีข้อตกลงเรื่องมาตรการอัดฉีดเม็ดเงิน ซึ่งเยอรมนีแสดงความพอใจต่อเรื่องนี้ออกมาชัดเจน

**การกำกับดูแลตลาดการเงิน**
ท่าทีของประเทศต่าง ๆ: ฝรั่งเศสและเยอรมนีร่วมกันประสานเสียงกดดันให้มีการควบคุมความประพฤติของพวกเฮดจ์ฟันด์อย่างหนักหน่วง ซึ่งข้อนี้เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีแองเกลา แมร์เคิลแห่งเยอรมนีได้พยายามผลักดันมาตั้งแต่ก่อนวิกฤตการเงินแล้ว และประเทศในเอเชียที่เคยเป็นเหยื่อวิกฤตการเงินก็เรียกร้องก่อนหน้านี้นานมากแล้ว ในขณะที่ญี่ปุ่นบอกว่าการกำกับดูแลน่าจะสำคัญน้อยกว่าการเยียวยาเศรษฐกิจโลก

ผล: ที่ประชุมจี 20 ให้คำมั่นชัดเจนว่าจะขยายขอบเขตการกำกับดูแลและควบคุมให้ครอบคลุมถึงสถาบันการเงินที่สำคัญทุกชนิด รวมทั้งผลิตภัณฑ์การเงินและตลาดการเงินและตลาดทุนทั้งมวลด้วย บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อก็ยังถูกรวมเข้าไปในระบบกำกับดูแลใหม่นี้ด้วยเช่นกัน

**การกีดกันทางการค้า**
ท่าทีของประเทศต่าง ๆ: อังกฤษ, สหรัฐฯ, เกาหลีใต้, แคนาดาและอินเดียต่างเรียกร้องกลุ่มจี 20 ให้คำมั่นว่าจะไม่ใช้วิธีการปกป้องทางการค้า

ผล: ที่ประชุมยืนยันท่าทีที่สรุปกันไปในการประชุมครั้งที่แล้ว ที่จะไม่เพิ่มกำแพงกีดกันทางการค้าและการลงทุน อย่างไรก็ดี ในความเป็นจริง ประเทศในกลุ่มนี้ได้ออกมาตรการปกป้องธุรกิจในประเทศจากการแข่งขันภายนอกกันเพิ่มมากขึ้น ภายหลังการประชุมซัมมิตจี20กรุงวอชิงตันในเดือนพฤศจิกายนนปี 2008
กำลังโหลดความคิดเห็น