SOSบริการสายด่วนให้คำปรึกษาการเงิน หวั่นอัตราฆ่าตัวตายพุ่ง

กลุ่มแซมาริตันส์ ออฟ สิงคโปร์ (เอสโอเอส) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในสิงคโปร์ ที่ช่วยป้องกันปัญหาฆ่าตัวตายด้วยบริการสายด่วนให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม. ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ และมีคนถูกปลดจากงานมากขึ้นในสิงคโปร์ ทำให้ทางกลุ่มฯ ต้องเปิดรับสมัครอาสาสมัครเพิ่มเพื่อรองรับกับจำนวนผู้โทรศัพท์เข้าไปขอคำปรึกษาจำนวนมาก
รองผู้อำนวยการเอสโอเอส กล่าวว่า ช่วงนี้มีผู้โทรศัพท์เข้าไปปรึกษาปัญหาด้านการเงินเพิ่มขึ้น เช่น ปัญหาว่างงาน และความล้มเหลวในการประกอบธุรกิจ โดยเมื่อปี 2550 มีผู้โทรศัพท์ขอรับคำปรึกษาจากเอสโอเอส 45,050 ราย แต่คาดว่าปีนี้จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ การฆ่าตัวตายคิดเป็นร้อยละ 2 ของการเสียชีวิตทั้งหมดในสิงคโปร์ โดยเมื่อปี 2550 มีผู้ฆ่าตัวตาย 374 คน และมีจำนวนคนพยายามฆ่าตัวตายสูงกว่ามาก
ส่วนกลุ่มป้องกันการฆ่าตัวตายในฮ่องกง ระบุว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีผู้โทรศัพท์ขอรับความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นร้อยละ 45 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผู้ที่ขอรับคำปรึกษาเรื่องปัญหาการเงินพุ่งสูงขึ้นร้อยละ 78.5 จากเมื่อปีก่อน และส่วนมากรู้สึกท้อแท้กับชีวิตหลังถูกปลดออกจากงาน หรือหมดตัวจากการลงทุนในตลาดหุ้น
บรรดาผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ภาวะเศรษฐกิจซบเซา จะทำให้อัตราการฆ่าตัวตายพุ่งสูงขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษาปัญหาฆ่าตัวตายในสิงคโปร์ ระบุว่า ช่วงที่มีตัวเลขการฆ่าตัวตายพุ่งสูงสุดแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงเกรท ดีเปรสชั่น ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และในปี 2528 ซึ่งเป็นปีแรกที่เศรษฐกิจสิงคโปร์ เข้าสู่ภาวะถดถอยนับแต่ได้รับเอกราช