นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "ฝ่าวิกฤตประเทศต่อทางเลือกสู่สังคมใหม่" โดยระบุว่า ประเทศไทยจะไม่มีความสุขเหมือนที่เคยเป็นมาในอดีต เพราะปัจจุบันต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจโลก ที่ทำให้เกิดปัญหาคนตกงานมากกว่าที่เคยปรากฏในอดีต และสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่ปกติ ซึ่งนับวันจะมีความรุนแรงมากขึ้น โดยมองว่าเศรษฐกิจโลกจะต้องใช้ระยะเวลา 1 - 2 ปี จึงจะฟื้นตัว ดังนั้น รัฐบาลต้องหาแนวทางรับมือในระยะสั้นด้วยการเพิ่มความร่วมมือภาครัฐและเอกชนในการบรรเทาวิกฤตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการดูแลปัญหาสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ SMEs และภาคการท่องเที่ยวเป็นเรียลแฟคเตอร์ส (Real Factors) ซึ่งเป็นภาคที่มีการจ้างงานเป็นจำนวนมาก ให้สามารถประคับประคองตนเองให้รอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลจะมีการกู้เงินจากต่างประเทศ เพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจส่วนเม็ดเงินจะเป็นเท่าไรนั้น เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะตัดสินใจ แต่สิ่งสำคัญควรเน้นการลงทุนไปที่การพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว
ส่วนกรณีการจัดเก็บรายได้ในปีนี้ของรัฐบาล ที่อาจต่ำกว่าเป้าถึงร้อยละ 15 นั้น นายสมคิด กล่าวว่า ไม่น่าเป็นห่วง โดยเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถดูแลปัญหาได้ และมองว่ารัฐบาลได้ดูแลปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้อย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งตนจะเป็นกำลังใจให้กับรัฐบาล
ทั้งนี้ เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลจะมีการกู้เงินจากต่างประเทศ เพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจส่วนเม็ดเงินจะเป็นเท่าไรนั้น เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะตัดสินใจ แต่สิ่งสำคัญควรเน้นการลงทุนไปที่การพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว
ส่วนกรณีการจัดเก็บรายได้ในปีนี้ของรัฐบาล ที่อาจต่ำกว่าเป้าถึงร้อยละ 15 นั้น นายสมคิด กล่าวว่า ไม่น่าเป็นห่วง โดยเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถดูแลปัญหาได้ และมองว่ารัฐบาลได้ดูแลปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้อย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งตนจะเป็นกำลังใจให้กับรัฐบาล