นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในการปาฐกถาพิเศษเพื่อพัฒนาสถาบันการค้า ในงานสัมมนาเสริมพลังสถาบันการค้าไทยว่า ปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้ไม่รุนแรงเท่าวิกฤตปี 2540 และเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ปัญหาการว่างงานที่อาจนำไปสู่ปัญหาด้านสังคม เพราะคนตกงานจำนวนมาก ดังนั้น รัฐบาลจะต้องดูแลแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด เน้นงบประมาณกระตุ้นการส่งออก และการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดรายได้และการจ้างงาน
นายสมคิด กล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจไทยจะสามารถฟื้นตัวได้เมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย ประกอบด้วย การฟื้นตัวของสหรัฐอเมริกา และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยที่ออกมาว่าจะใช้ได้ผลหรือไม่ อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังคงน่าเป็นห่วงเนื่องจากโครงสร้างเศรษฐกิจยังพึ่งพาภาคการส่งออกสูงถึงร้อยละ 60-70 อีกทั้งการกระจายรายได้ในประเทศยังไม่มีประสิทธิผลเพียงพอและการพัฒนานวัตกรรมใหม่ยังคงต่ำกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ดังนั้น ภาคเอกชนและสมาคมจึงมีหน้าที่ร่วมกันผลักดันให้เกิดการพัฒนาภายในประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้
นายสมคิด กล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจไทยจะสามารถฟื้นตัวได้เมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย ประกอบด้วย การฟื้นตัวของสหรัฐอเมริกา และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยที่ออกมาว่าจะใช้ได้ผลหรือไม่ อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังคงน่าเป็นห่วงเนื่องจากโครงสร้างเศรษฐกิจยังพึ่งพาภาคการส่งออกสูงถึงร้อยละ 60-70 อีกทั้งการกระจายรายได้ในประเทศยังไม่มีประสิทธิผลเพียงพอและการพัฒนานวัตกรรมใหม่ยังคงต่ำกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ดังนั้น ภาคเอกชนและสมาคมจึงมีหน้าที่ร่วมกันผลักดันให้เกิดการพัฒนาภายในประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้
