นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล ได้เสนอให้ที่ประชุมร่วม 2 สภาเลื่อนวาระการเจรจากู้เงิน 70,000 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย และวาระที่เกี่ยวเนื่องกับการเจรจาระหว่างประเทศ ในประเด็นเศรษฐกิจต่างๆ รวม 8 เรื่องขึ้นพิจารณา แทนวาระการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่ คปพร.เป็นผู้เสนอ
ด้านนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ทักท้วงว่า ควรดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญแทนการปฏิรูปการเมือง เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ซึ่งนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเคยสนับสนุน ในสมัยที่เคยอยู่ร่วมกันในพรรคพลังประชาชนมาก่อน
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นชี้แจงว่า การปฏิรูปการเมืองจะไม่สร้างความขัดแย้ง ซึ่งหลังจากที่สถาบันพระปกเกล้าได้ตอบรับที่จะดำเนินการให้แล้ว ตนก็พร้อมที่จะหารือกับฝ่ายค้าน ใน1-2 วันนี้ ส่วนที่ไม่ให้สภาฯ ดำเนินการก็เพราะว่า เกรงจะเพิ่มความขัดแย้งในสังคมขึ้น
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เห็นว่าควรให้สภาฯ ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานเชื่อว่า จะสามารถแล้วเสร็จได้ภายใน 60 วัน โดยใช้รัฐธรรมนูญปี 40 และ 50 มาเทียบเคียง ส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับสถาบันพระปกเกล้าเนื่องจาก ไม่เชื่อถือในบุคคลที่เสนอชื่อมา เพราะเคยเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ และการร่างรัฐธรรมนูญปี 50
ด้านนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ทักท้วงว่า ควรดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญแทนการปฏิรูปการเมือง เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ซึ่งนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเคยสนับสนุน ในสมัยที่เคยอยู่ร่วมกันในพรรคพลังประชาชนมาก่อน
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นชี้แจงว่า การปฏิรูปการเมืองจะไม่สร้างความขัดแย้ง ซึ่งหลังจากที่สถาบันพระปกเกล้าได้ตอบรับที่จะดำเนินการให้แล้ว ตนก็พร้อมที่จะหารือกับฝ่ายค้าน ใน1-2 วันนี้ ส่วนที่ไม่ให้สภาฯ ดำเนินการก็เพราะว่า เกรงจะเพิ่มความขัดแย้งในสังคมขึ้น
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เห็นว่าควรให้สภาฯ ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานเชื่อว่า จะสามารถแล้วเสร็จได้ภายใน 60 วัน โดยใช้รัฐธรรมนูญปี 40 และ 50 มาเทียบเคียง ส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับสถาบันพระปกเกล้าเนื่องจาก ไม่เชื่อถือในบุคคลที่เสนอชื่อมา เพราะเคยเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ และการร่างรัฐธรรมนูญปี 50
