นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล และนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน หารือกันแบบ 2 ต่อ 2 เพื่อตกลงในกรอบเวลาของการพิจารณาญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรายบุคคลเกือบ 1 ชั่วโมง แต่ก็ไม่สามารถได้ข้อยุติที่พึงพอใจ
โดยประธานวิปฝ่ายค้าน ยืนยันว่า จะนำเรื่องกรอบเวลาไปหารือกับประธานสภาผู้แทนราษฎรในที่ประชุมสภาช่วงบ่ายนี้ ตามข้อบังคับการประชุมข้อที่ 21 ว่าด้วยการขอความเห็นจากสภา เพื่อขยายกรอบเวลาพิจารณาญัตติ และยังคงมีหลักการเดิมคือ เพิ่มจาก 2 วันเป็น 3 วัน แต่ยืนยันหากไม่ได้ตามคำร้องขอ ฝ่ายค้านก็พร้อมเดินหน้าอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างเต็มที่ โดยเตรียมประชุมจัดสรรเวลาอีกครั้งในช่วงเที่ยงวันนี้
ส่วนเนื้อหาการอภิปราย ฝ่ายค้านยืนยันจะเคารพกติกาของที่ประชุมอย่างเคร่งครัด โดยจะไม่อภิปรายกล่าวหาพาดพิงบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็น สอดคล้องกับการประเมินการอภิปรายของวิปรัฐบาล ซึ่งประธานวิปรัฐบาลได้ประชุมหารือกับ น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานคณะทำงานประสานงานข้อมูลการอภิปรายของพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อแบ่งสรรหน้าที่รวบรวมข้อมูล และจัดสรรกรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อเตรียมรับมือการอภิปรายของฝ่ายค้าน พร้อมยอมรับว่า ได้มีการแต่งตั้งผู้รับผิดชอบเฉพาะด้าน
ส่วนเนื้อหาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่เกี่ยวข้องกับเงินบริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาท ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันถึงการใช้สิทธิ์ชี้แจงข้อเท็จจริงได้ ในทันทีที่มีการอภิปรายพาดพิงถึง และมั่นใจว่า ข้อมูลหลักฐานที่มีอยู่จะทำให้สภาเข้าใจ และประชาชนไม่เคลือบแคลงสงสัย
ประเด็นการปรับโยกข้าราชการ และการแทรกแซงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกระทรวงมหาดไทย ที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในสภานั้น ยังมีความเคลื่อนไหวในการตรวจสอบเรื่องนี้ของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายประชา ประสพดี ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ได้เชิญ นายสุกิจ เจริญรัตนกุล อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นมาชี้แจงข้อเท็จจริงอีกด้วย ซึ่งเบื้องต้นนายสุกิจย้ำถึงการปรับโยกที่ไม่เป็นธรรม และเป็นการพิจารณาของปลัด รองปลัด และรัฐมนตรีเท่านั้น ไม่มีคณะกรรมการกลั่นกรองความเหมาะสมตามระเบียบของกระทรวงแต่อย่างใด
โดยประธานวิปฝ่ายค้าน ยืนยันว่า จะนำเรื่องกรอบเวลาไปหารือกับประธานสภาผู้แทนราษฎรในที่ประชุมสภาช่วงบ่ายนี้ ตามข้อบังคับการประชุมข้อที่ 21 ว่าด้วยการขอความเห็นจากสภา เพื่อขยายกรอบเวลาพิจารณาญัตติ และยังคงมีหลักการเดิมคือ เพิ่มจาก 2 วันเป็น 3 วัน แต่ยืนยันหากไม่ได้ตามคำร้องขอ ฝ่ายค้านก็พร้อมเดินหน้าอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างเต็มที่ โดยเตรียมประชุมจัดสรรเวลาอีกครั้งในช่วงเที่ยงวันนี้
ส่วนเนื้อหาการอภิปราย ฝ่ายค้านยืนยันจะเคารพกติกาของที่ประชุมอย่างเคร่งครัด โดยจะไม่อภิปรายกล่าวหาพาดพิงบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็น สอดคล้องกับการประเมินการอภิปรายของวิปรัฐบาล ซึ่งประธานวิปรัฐบาลได้ประชุมหารือกับ น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานคณะทำงานประสานงานข้อมูลการอภิปรายของพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อแบ่งสรรหน้าที่รวบรวมข้อมูล และจัดสรรกรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อเตรียมรับมือการอภิปรายของฝ่ายค้าน พร้อมยอมรับว่า ได้มีการแต่งตั้งผู้รับผิดชอบเฉพาะด้าน
ส่วนเนื้อหาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่เกี่ยวข้องกับเงินบริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาท ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันถึงการใช้สิทธิ์ชี้แจงข้อเท็จจริงได้ ในทันทีที่มีการอภิปรายพาดพิงถึง และมั่นใจว่า ข้อมูลหลักฐานที่มีอยู่จะทำให้สภาเข้าใจ และประชาชนไม่เคลือบแคลงสงสัย
ประเด็นการปรับโยกข้าราชการ และการแทรกแซงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกระทรวงมหาดไทย ที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในสภานั้น ยังมีความเคลื่อนไหวในการตรวจสอบเรื่องนี้ของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายประชา ประสพดี ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ได้เชิญ นายสุกิจ เจริญรัตนกุล อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นมาชี้แจงข้อเท็จจริงอีกด้วย ซึ่งเบื้องต้นนายสุกิจย้ำถึงการปรับโยกที่ไม่เป็นธรรม และเป็นการพิจารณาของปลัด รองปลัด และรัฐมนตรีเท่านั้น ไม่มีคณะกรรมการกลั่นกรองความเหมาะสมตามระเบียบของกระทรวงแต่อย่างใด