สำนักข่าว AFP ของฝรั่งเศส รายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระบุว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย ได้ออกมาชี้ว่า การเพิ่มศักยภาพในการปล่อยกู้ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศกำลังพัฒนา ต่อเมื่อเงื่อนไขต่างๆ ในการกู้ยืม มีการผ่อนปรนยืดหยุ่นมากขึ้นด้วยเช่นกัน
นายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับไฟแนนเชียลไทมส์ ในกรุงลอนดอน โดยระบุว่า เมื่อกลุ่มประเทศ G-20 หารือกันเกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบันการเงินระหว่างประเทศ มันไม่ใช่แค่การเพิ่มเงินทุนให้กับสถาบันเหล่านั้น แต่จะต้องดูถึงวิธีการในการนำเงินเหล่านั้นไปใช้ด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าจะเกิดการกระตุ้นทางด้านงบประมาณ การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และความมั่นคงทางสังคม ในหมู่ประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งผมคิดว่า IMF จำเป็นที่จะต้องทบทวนบทบาทของตัวเอง
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้กำลังมีความวิตกกังวลในหมู่ประเทศกำลังพัฒนา เกี่ยวกับเรื่องเงื่อนไขต่างๆในการกู้ยืมเงินจากองค์การระหว่างประเทศเหล่านี้ จะไปส่งผลต่อแผนพัฒนาประเทศของตน
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ ที่กรุงลอนดอน ภายหลังจากการเข้าหารือกับ นายกอร์ดอน บราวน์ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ โดยระบุว่า เศรษฐกิจของไทย อาจจะไม่เติบโตในทางบวก จนกว่าจะถึงช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
นายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับไฟแนนเชียลไทมส์ ในกรุงลอนดอน โดยระบุว่า เมื่อกลุ่มประเทศ G-20 หารือกันเกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบันการเงินระหว่างประเทศ มันไม่ใช่แค่การเพิ่มเงินทุนให้กับสถาบันเหล่านั้น แต่จะต้องดูถึงวิธีการในการนำเงินเหล่านั้นไปใช้ด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าจะเกิดการกระตุ้นทางด้านงบประมาณ การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และความมั่นคงทางสังคม ในหมู่ประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งผมคิดว่า IMF จำเป็นที่จะต้องทบทวนบทบาทของตัวเอง
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้กำลังมีความวิตกกังวลในหมู่ประเทศกำลังพัฒนา เกี่ยวกับเรื่องเงื่อนไขต่างๆในการกู้ยืมเงินจากองค์การระหว่างประเทศเหล่านี้ จะไปส่งผลต่อแผนพัฒนาประเทศของตน
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ ที่กรุงลอนดอน ภายหลังจากการเข้าหารือกับ นายกอร์ดอน บราวน์ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ โดยระบุว่า เศรษฐกิจของไทย อาจจะไม่เติบโตในทางบวก จนกว่าจะถึงช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
