เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น จากนั้นมีบุคคลลึกลับบอกกับคุณว่า คนรักของคุณถูกลักพาตัว ระหว่างนั้นคุณอาจได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังแว่วมา และคนร้ายจะบอกรายเอียดให้คุณนำเงินมาจ่ายค่าไถ่ตัว
แต่อย่ารีบร้อนรีบนำเงินไปให้คนร้าย ตำรวจในประเทศแถบเอเชียบอกว่า เรื่องในลักษณะเช่นนี้มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นแผนการต้มตุ๋นหลอกลวง ที่กำลังระบาดหนักขึ้นเรื่อย ๆ
เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศแถบเอเชีย - แปซิฟิก ออกคำเตือนว่า การฉ้อโกงรูปแบบต่าง ๆ ระบาดหนักขึ้น เนื่องจากความล้มเหลวทางธุรกิจและคนตกงานมากขึ้น ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ
สำหรับประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดเมืองปลอดภัยของทวีปเอเชียอย่างสิงคโปร์ แต่กำลังเผชิญกับมรสุมทางเศรษฐกิจเช่นกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นรายงานว่า ในปี 2008 การต้มตุ๋นหลอกเอาเงินทางโทรศัทพ์เพิ่มจากปีก่อนถึง 15 เปอร์เซนต์ โดยมีมูลค่าความเสียหายคิดเป็นเงิน 7.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ราว 180 ล้านบาท เปรียบเทียบกับ 4.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปี 2007
ที่ออสเตรเลียทางการวิตกกังวลว่า วิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดของโลก นับตั้งแต่เหตุการณ์ " เกรท ดีเพรสชั่น" ในศตวรรษที่ 1930 อาจส่งผลให้เกิดการต้มตุ๋นมากยิ่งขึ้น
รูปแบบการต้มตุ๋นที่มักพบบ่อยที่สุดคือ อีเมล์ที่แอบอ้างว่ามาจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อหลอกถามข้อมูลส่วนตัวหรือเรียกเก็บเงินจากเหยื่อ สแคมวอชต์กล่าว
มีรายงานด้วยว่า มีเหยื่อมากกว่า 17,000 รายในออสเตรเลียตกเป็นเหยื่อของการตุ้มตุ๋น โดยคิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 33 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 808 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว และเตือนด้วยว่า ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้อาจทำให้ประชาชนถูกหลอกลวงได้ง่าย
เช่นเดียวกับที่เกาหลีใต้ "การต้มตุ๋น" ทางอินเตอร์เน็ต เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึง 163 คดี ในช่วงครึ่งหลังของปี 2008 จากเดิมเพียง 36 คดีในช่วงครึ่งปีแรก ทั้งนี้จากข้อมูลของทางการ
แต่อย่ารีบร้อนรีบนำเงินไปให้คนร้าย ตำรวจในประเทศแถบเอเชียบอกว่า เรื่องในลักษณะเช่นนี้มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นแผนการต้มตุ๋นหลอกลวง ที่กำลังระบาดหนักขึ้นเรื่อย ๆ
เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศแถบเอเชีย - แปซิฟิก ออกคำเตือนว่า การฉ้อโกงรูปแบบต่าง ๆ ระบาดหนักขึ้น เนื่องจากความล้มเหลวทางธุรกิจและคนตกงานมากขึ้น ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ
สำหรับประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดเมืองปลอดภัยของทวีปเอเชียอย่างสิงคโปร์ แต่กำลังเผชิญกับมรสุมทางเศรษฐกิจเช่นกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นรายงานว่า ในปี 2008 การต้มตุ๋นหลอกเอาเงินทางโทรศัทพ์เพิ่มจากปีก่อนถึง 15 เปอร์เซนต์ โดยมีมูลค่าความเสียหายคิดเป็นเงิน 7.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ราว 180 ล้านบาท เปรียบเทียบกับ 4.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปี 2007
ที่ออสเตรเลียทางการวิตกกังวลว่า วิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดของโลก นับตั้งแต่เหตุการณ์ " เกรท ดีเพรสชั่น" ในศตวรรษที่ 1930 อาจส่งผลให้เกิดการต้มตุ๋นมากยิ่งขึ้น
รูปแบบการต้มตุ๋นที่มักพบบ่อยที่สุดคือ อีเมล์ที่แอบอ้างว่ามาจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อหลอกถามข้อมูลส่วนตัวหรือเรียกเก็บเงินจากเหยื่อ สแคมวอชต์กล่าว
มีรายงานด้วยว่า มีเหยื่อมากกว่า 17,000 รายในออสเตรเลียตกเป็นเหยื่อของการตุ้มตุ๋น โดยคิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 33 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 808 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว และเตือนด้วยว่า ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้อาจทำให้ประชาชนถูกหลอกลวงได้ง่าย
เช่นเดียวกับที่เกาหลีใต้ "การต้มตุ๋น" ทางอินเตอร์เน็ต เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึง 163 คดี ในช่วงครึ่งหลังของปี 2008 จากเดิมเพียง 36 คดีในช่วงครึ่งปีแรก ทั้งนี้จากข้อมูลของทางการ