นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รักษาการผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล ของธนาคาร ณ เดือนธันวาคม ปี 2551 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 9.6 ของสินเชื่อรวมทั้งหมด 400,000 ล้านบาท สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ที่ร้อยละ 8.5 ในเดือนมีนาคม ปี 2552 ซึ่งเป็นการสิ้นสุดปีงบประมาณของ ธ.ก.ส.
อย่างไรก็ตาม ผลจากโครงการรับจำนำพืชผลทางการเกษตร ช่วยให้เกษตรกรมีความสามรถในการชำระหนี้ดีขึ้น ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา จึงคาดว่าสิ้นปีงบประมาณเอ็นพีแอลจะอยู่ที่ ร้อยละ 9
ส่วนการปล่อยสินเชื่อของปีงบประมาณ 2551 ขณะนี้สูงเกินกว่าเป้าหมายแล้ว โดยทำได้ 282,000 ล้านบาท หากรวมโครงการรับจำนำพืชผลทางการเกษตร ก็จะทำให้ ธ.ก.ส.อัดฉีดเงินเข้าสู่ภาคการเกษตรถึง 300,000 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2552 ก็ได้ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นร้อยละ 6
ส่วนโครงการรับจำนำข้าวที่ปิดรับจำนำเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มียอด 72,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 97,000 ล้านบาท เพราะว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือผลผลิตน้อยกว่าที่คาด แต่ก็ช่วยให้ราคาข้าวนาปีเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 12,000 บาทต่อตัน ใกล้เคียงกับราคารับจำนำ 16,000 บาทต่อวัน
อย่างไรก็ตาม ผลจากโครงการรับจำนำพืชผลทางการเกษตร ช่วยให้เกษตรกรมีความสามรถในการชำระหนี้ดีขึ้น ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา จึงคาดว่าสิ้นปีงบประมาณเอ็นพีแอลจะอยู่ที่ ร้อยละ 9
ส่วนการปล่อยสินเชื่อของปีงบประมาณ 2551 ขณะนี้สูงเกินกว่าเป้าหมายแล้ว โดยทำได้ 282,000 ล้านบาท หากรวมโครงการรับจำนำพืชผลทางการเกษตร ก็จะทำให้ ธ.ก.ส.อัดฉีดเงินเข้าสู่ภาคการเกษตรถึง 300,000 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2552 ก็ได้ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นร้อยละ 6
ส่วนโครงการรับจำนำข้าวที่ปิดรับจำนำเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มียอด 72,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 97,000 ล้านบาท เพราะว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือผลผลิตน้อยกว่าที่คาด แต่ก็ช่วยให้ราคาข้าวนาปีเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 12,000 บาทต่อตัน ใกล้เคียงกับราคารับจำนำ 16,000 บาทต่อวัน
