นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง เตรียมพิจารณาปรับภาษีสรรพสามิตที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงและอบายมุข หรือภาษีบาปทั้งหมด ยกเว้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน โดยจะเริ่มเก็บภาษีในส่วนของชาและกาแฟเป็นอันดับแรก โดยวัดจากปริมาณกาเฟอีน เนื่องจากสามารถนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่ออนุมัติได้เลย โดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามในสัปดาห์หน้า จะเชิญผู้ประกอบการมาหารือ เพื่อทำความเข้าใจก่อนประกาศจัดเก็บภาษีดังกล่าว ส่วนภาษีสุรา คาดว่าจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในอีก 2 สัปดาห์ต่อไป ทั้งนี้เชื่อว่าจะทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจัดเก็บภาษีบาปทั้งหมดกว่า 30,000 ล้านบาท
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความคืบหน้าการพิจารณาจัดเก็บภาษีสถานบันเทิง โดยเฉพาะซานติก้าผับ ต้องรอผลสรุปก่อน เนื่องจากขณะนี้คณะกรรมการาตรวจสอบ ได้แจ้งมาว่า ระยะเวลาที่กระทรวงการคลังกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันนั้น น้อยเกินไป ตนเองจึงได้ขยายเวลาการทำงานให้คณะกรรมการตรวจสอบเพิ่มอีก 30 วัน และให้ผู้แทนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้ามาร่วมทำงานด้วย เพื่อให้สามารถสอบสวนพยานภายนอกได้
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความคืบหน้าการพิจารณาจัดเก็บภาษีสถานบันเทิง โดยเฉพาะซานติก้าผับ ต้องรอผลสรุปก่อน เนื่องจากขณะนี้คณะกรรมการาตรวจสอบ ได้แจ้งมาว่า ระยะเวลาที่กระทรวงการคลังกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันนั้น น้อยเกินไป ตนเองจึงได้ขยายเวลาการทำงานให้คณะกรรมการตรวจสอบเพิ่มอีก 30 วัน และให้ผู้แทนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้ามาร่วมทำงานด้วย เพื่อให้สามารถสอบสวนพยานภายนอกได้
