เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ตัวแทนภาคประชาสังคมได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม หลังเสร็จสิ้นการสนทนากับบรรดาผู้นำ 10 ชาติอาเซียน โดยกลุ่มแรกไปพบผู้สื่อข่าวบริเวณสถานที่จัดงานประชุม ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งมาที่พื้นที่ทำงานของสื่อที่โรงแรมเชอราตัน
ตัวแทนภาคประชาสังคมไม่พอใจที่ผู้นำอาเซียนมีท่าทีไม่ตอบรับกับการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน โดยเฉพาะท่าทีของรัฐบาลทหารพม่าและรัฐบาลกัมพูชา ที่ไม่ยอมให้ภาคประชาสังคมของตนเข้าพบ อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากอินโดนีเซียยังมองในแง่ดีว่า อย่างน้อยก็เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานร่วมระหว่างประชาสังคม กับอาเซียน
ทั้งนี้ จึงเกิดคำถามว่าเป้าหมายของอาเซียนตามกฎบัตร ที่ต้องการให้มีประชาชนเป็นศูนย์กลางจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร เมื่อผู้นำบางประเทศไม่ได้ใส่ใจกับการมีอยู่ของภาคประชาชน
ขณะที่ในบทสุนทรพจน์เปิดงานเพื่อต้อนรับผู้นำอย่างเป็นทางการ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำถึงความสำคัญของผู้คนและประชาชน และความเป็นพลเมืองร่วมกันของชาวอาเซียนทั้ง 567 ล้านคน
ทางด้านตัวแทนภาคประชาสังคมของฝ่ายไทย ระบุว่า บรรยากาศในการหารือกับ 10 ผู้นำอาเซียนค่อนข้างจะตึงเครียด มีผู้นำเพียง 2 คน ที่ยอมพูดกับตัวแทนภาคประชาสังคม คือนายกรัฐมนตรีไทยในฐานะเจ้าภาพ และผู้นำของประเทศเวียดนาม โดยกรอบการหารือหลักของตัวแทนภาคประชาสังคม คือต้องการเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม และต้องการให้ปกป้องกลไกสิทธิมนุษยชน และองค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียน พร้อมกับต้องการผลักดันให้พม่าก้าวเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ตัวแทนภาคประชาสังคมไม่พอใจที่ผู้นำอาเซียนมีท่าทีไม่ตอบรับกับการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน โดยเฉพาะท่าทีของรัฐบาลทหารพม่าและรัฐบาลกัมพูชา ที่ไม่ยอมให้ภาคประชาสังคมของตนเข้าพบ อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากอินโดนีเซียยังมองในแง่ดีว่า อย่างน้อยก็เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานร่วมระหว่างประชาสังคม กับอาเซียน
ทั้งนี้ จึงเกิดคำถามว่าเป้าหมายของอาเซียนตามกฎบัตร ที่ต้องการให้มีประชาชนเป็นศูนย์กลางจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร เมื่อผู้นำบางประเทศไม่ได้ใส่ใจกับการมีอยู่ของภาคประชาชน
ขณะที่ในบทสุนทรพจน์เปิดงานเพื่อต้อนรับผู้นำอย่างเป็นทางการ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำถึงความสำคัญของผู้คนและประชาชน และความเป็นพลเมืองร่วมกันของชาวอาเซียนทั้ง 567 ล้านคน
ทางด้านตัวแทนภาคประชาสังคมของฝ่ายไทย ระบุว่า บรรยากาศในการหารือกับ 10 ผู้นำอาเซียนค่อนข้างจะตึงเครียด มีผู้นำเพียง 2 คน ที่ยอมพูดกับตัวแทนภาคประชาสังคม คือนายกรัฐมนตรีไทยในฐานะเจ้าภาพ และผู้นำของประเทศเวียดนาม โดยกรอบการหารือหลักของตัวแทนภาคประชาสังคม คือต้องการเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม และต้องการให้ปกป้องกลไกสิทธิมนุษยชน และองค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียน พร้อมกับต้องการผลักดันให้พม่าก้าวเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง