นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค.ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปีนี้มีโอกาสติดลบมากกว่าร้อยละ 4.3 สาเหตุเพราะภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลงมาก และหากเปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ของปี 2551 อัตราการขยายตัวสูงถึงร้อยละ 6 โดยมีสัญญาณสะท้อนชัดเจนในเดือนมกราคม 2552 ที่ตัวเลขการบริโภค การลงทุนภาคเอกชน ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ปริมาณการนำเข้าเครื่องจักร และสินค้าทุนหดตัวถึงร้อยละ 29.8 ขณะที่ภาคการส่งออกหดตัวประมาณร้อยละ 26 ซึ่ง สศค.กังวลว่า หากเศรษฐกิจติดลบนาน อาจทำให้เกิดปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ต่อระบบสถาบันการเงิน
อย่างไรก็ตาม ในเดือนมกราคมการเบิกจ่ายของรัฐบาลดีขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยการชะลอตัวของการใช้จ่ายภาคเอกชน และเชื่อว่ารัฐบาลต้องเร่งการเบิกจ่ายให้สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นทางเดียวที่ช่วยชะลอการหดตัวของเศรษฐกิจไทย สำหรับในเดือนมกราคม เศรษฐกิจไทยยังมีจุดเด่นคือ เงินเฟ้อที่ต่ำ ไม่เป็นอุปสรรคต่อภาคเศรษฐกิจ ขณะที่เงินสำรองสูงถึง 110,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และอัตราการว่างงานยังต่ำที่ร้อยละ 1.4
อย่างไรก็ตาม ในเดือนมกราคมการเบิกจ่ายของรัฐบาลดีขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยการชะลอตัวของการใช้จ่ายภาคเอกชน และเชื่อว่ารัฐบาลต้องเร่งการเบิกจ่ายให้สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นทางเดียวที่ช่วยชะลอการหดตัวของเศรษฐกิจไทย สำหรับในเดือนมกราคม เศรษฐกิจไทยยังมีจุดเด่นคือ เงินเฟ้อที่ต่ำ ไม่เป็นอุปสรรคต่อภาคเศรษฐกิจ ขณะที่เงินสำรองสูงถึง 110,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และอัตราการว่างงานยังต่ำที่ร้อยละ 1.4