นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้เรียกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคต่างๆ รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เข้าหารือถึงนโยบายการปราบปรามยาเสพติด
ภายหลังการให้นโยบายกว่า 2 ชั่วโมง รองนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า กำชับให้ที่ประชุมสั่งการตำรวจทั่วประเทศ เร่งรัดปราบปรามยาเสพติด โดยให้ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือสำคัญตามหลักนิติรัฐ ไม่ให้ใช้ความรุนแรงหรือกลั่นแกล้ง โดยให้จัดทำบัญชีกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ค้า กลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด เพื่อติดตามพฤติกรรม และจับกุมดำเนินคดี พร้อมตั้งจุดตรวจ จุดสกัดเส้นทางลำเลียงเข้าประเทศ ปราบปรามแหล่งระบาดยาเสพติดตามหมู่บ้านชุมชน และจับกุมขยายผลไปสู่เครือข่ายใหญ่ และให้บังคับใช้กฎหมายกลุ่มมั่วสุมใช้ยาเสพติดตามสถานบันเทิง ที่สำคัญกำชับตำรวจทุกนายต้องไม่รับผลประโยชน์จากขบวนการค้ายาเสพติด โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปรับปรุงแผนการประชาสัมพันธ์ เพื่อดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม อีกทั้งให้แต่ละกองบัญชาการจัดตั้งชุดเฉพาะกิจ บูรณาการกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการปราบปรามยาเสพติดทั่วประเทศ โดยไม่ให้ใช้วิธีฆ่าตัดตอน
ทั้งนี้ พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา ทั่วประเทศสามารถจับกุมคดีค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหาถึง 183,000 กว่าคน ขณะที่มีผู้เสพติด 500,000 กว่าคน จับยาบ้าได้เพิ่มถึงร้อยละ 34.6 หรือกว่า 27 ล้านเม็ด ยึดทรัพย์ได้ร้อยละ 29.2 โดยมีแหล่งพักพิงยาเสพติดที่สำคัญในภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคตะวันออก รวม 10 จังหวัด ส่วนใหญ่ใช้เส้นทางหลวง เป็นเส้นทางลำเลียง
ภายหลังการให้นโยบายกว่า 2 ชั่วโมง รองนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า กำชับให้ที่ประชุมสั่งการตำรวจทั่วประเทศ เร่งรัดปราบปรามยาเสพติด โดยให้ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือสำคัญตามหลักนิติรัฐ ไม่ให้ใช้ความรุนแรงหรือกลั่นแกล้ง โดยให้จัดทำบัญชีกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ค้า กลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด เพื่อติดตามพฤติกรรม และจับกุมดำเนินคดี พร้อมตั้งจุดตรวจ จุดสกัดเส้นทางลำเลียงเข้าประเทศ ปราบปรามแหล่งระบาดยาเสพติดตามหมู่บ้านชุมชน และจับกุมขยายผลไปสู่เครือข่ายใหญ่ และให้บังคับใช้กฎหมายกลุ่มมั่วสุมใช้ยาเสพติดตามสถานบันเทิง ที่สำคัญกำชับตำรวจทุกนายต้องไม่รับผลประโยชน์จากขบวนการค้ายาเสพติด โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปรับปรุงแผนการประชาสัมพันธ์ เพื่อดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม อีกทั้งให้แต่ละกองบัญชาการจัดตั้งชุดเฉพาะกิจ บูรณาการกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการปราบปรามยาเสพติดทั่วประเทศ โดยไม่ให้ใช้วิธีฆ่าตัดตอน
ทั้งนี้ พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา ทั่วประเทศสามารถจับกุมคดีค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหาถึง 183,000 กว่าคน ขณะที่มีผู้เสพติด 500,000 กว่าคน จับยาบ้าได้เพิ่มถึงร้อยละ 34.6 หรือกว่า 27 ล้านเม็ด ยึดทรัพย์ได้ร้อยละ 29.2 โดยมีแหล่งพักพิงยาเสพติดที่สำคัญในภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคตะวันออก รวม 10 จังหวัด ส่วนใหญ่ใช้เส้นทางหลวง เป็นเส้นทางลำเลียง
