นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า จากการที่กลุ่มเครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ ยื่นหนังสือร้องเรียนดำเนินการเกี่ยวกับหนังสือที่มีเนื้อหาวาบหวิวมาวางจำหน่ายตามร้านสะดวกซื้อ แผงหนังสือทั่วไป และจำหน่ายหนังสือดังกล่าวให้แก่เด็กและเยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปีด้วยนั้น วันนี้ กระทรวงวัฒนธรรม ได้ประสานกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และกรมศิลปากร หารือถึงแนวทางการจัดโซนนิ่งการจัดวางหนังสือ ตลอดจนการกำหนดอายุ หรือปิดป้ายประกาศกำหนดอายุในการซื้อหนังสือดังกล่าวว่าควรจะดำเนินการอย่างไร
นายธีระ กล่าวอีกว่า ตนเองเห็นว่าประเทศไทยควรจัดโซนนิ่งหนังสือให้เป็นหมวดหมู่เฉพาะเหมือนกับต่างประเทศ โดยหนังสือที่วาบหวิวควรอยู่ในชั้นสูงสุด ที่เด็กและเยาวชนไม่สามารถหยิบถึงได้ง่าย ซึ่งผู้ซื้อหนังสือจะต้องแสดงบัตรประชาชนให้เหมือนกับการจำหน่ายบุหรี่ และสุรา ขณะที่แผงหนังสือทั่วไป ควรต้องจัดหนังสือวาบหวิวให้อยู่ในโซนในสุด ไม่ควรนำออกมาโชว์ด้านหน้าสุดของแผง
อย่างไรก็ตาม การจัดโซนนิ่งหนังสือ กระทรวงวัฒนธรรมจะใช้วิธีการขอความร่วมมือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้จัดจำหน่าย ร้านสะดวกซื้อ ร้านจำหน่ายหนังสือต่างๆ ในการจัดหนังสือที่มีเนื้อหาวาบหวิวให้อยู่ในจุดที่เหมาะสมมากที่สุด
นายธีระ กล่าวอีกว่า ตนเองเห็นว่าประเทศไทยควรจัดโซนนิ่งหนังสือให้เป็นหมวดหมู่เฉพาะเหมือนกับต่างประเทศ โดยหนังสือที่วาบหวิวควรอยู่ในชั้นสูงสุด ที่เด็กและเยาวชนไม่สามารถหยิบถึงได้ง่าย ซึ่งผู้ซื้อหนังสือจะต้องแสดงบัตรประชาชนให้เหมือนกับการจำหน่ายบุหรี่ และสุรา ขณะที่แผงหนังสือทั่วไป ควรต้องจัดหนังสือวาบหวิวให้อยู่ในโซนในสุด ไม่ควรนำออกมาโชว์ด้านหน้าสุดของแผง
อย่างไรก็ตาม การจัดโซนนิ่งหนังสือ กระทรวงวัฒนธรรมจะใช้วิธีการขอความร่วมมือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้จัดจำหน่าย ร้านสะดวกซื้อ ร้านจำหน่ายหนังสือต่างๆ ในการจัดหนังสือที่มีเนื้อหาวาบหวิวให้อยู่ในจุดที่เหมาะสมมากที่สุด
