พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี กล่าวเปิดการประชุมเสวนาเรื่อง การคุ้มครองที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยระบุว่าปัจจุบันพื้นที่การเกษตรของไทยที่เคยมีผลผลิตขึ้นชื่อ ไม่ว่าจะเป็นสวนส้มบางมด สวนทุเรียนนนทบุรี และเกษตรกรรมที่ลุ่มคลองรังสิต ได้ถูกแปรสภาพเป็นพื้นที่จัดสรรและบ้านเรือน ทำให้พื้นที่การเกษตรอยู่ในสภาพเสื่อมโทรม และไม่มีที่ดินสำรองเพื่อการเกษตรในอนาคต จึงเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ ที่ทุกคนต้องหวงแหนพื้นที่การเกษตรเช่นเดียวกับพื้นที่ป่า เพราะอาชีพเกษตรกรรมถือเป็นอาชีพหลักของคนไทย ขณะที่ข่าวชาวต่างชาติเข้ามาซื้อที่ดินทำการเกษตรในประเทศไทย โดยมีองค์กรหรือนอมินีบังหน้า ก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เข้ามาดูแลปกป้องพื้นที่การเกษตร เพราะไม่ว่าชาวนาจะขายที่ดิน เนื่องจากราคาดี หรือเพราะความยากจน แต่ท้ายที่สุดชาวนาจะกลายเป็นลูกจ้างทำนา เพราะส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการทำนามากกว่าการบริหารจัดการเงิน
ศาสตราจารย์ระพี สาคริก กล่าวเสริมว่า การขายที่ดินไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการขายจิตวิญญาณความอดทนในการทำการเกษตรซึ่งเป็นหัวใจของประเทศ เพียงเพราะเห็นแก่ความสวยงามที่ล่อตาล่อใจ แต่ปัญหาเรื่องนี้ก็เกิดจากระบบการศึกษาที่ไม่ได้หล่อหลอมให้คนไทยและเกษตรกรมีความเข้มแข็ง และจิตวิญญาณที่จะต่อสู้ และขอให้คำนึงว่าแผ่นดินหมายถึงความเป็นชาติ และถ้าไม่มีความรักแผ่นดินก็จะทำให้ชาติเสื่อมได้
ศาสตราจารย์ระพี สาคริก กล่าวเสริมว่า การขายที่ดินไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการขายจิตวิญญาณความอดทนในการทำการเกษตรซึ่งเป็นหัวใจของประเทศ เพียงเพราะเห็นแก่ความสวยงามที่ล่อตาล่อใจ แต่ปัญหาเรื่องนี้ก็เกิดจากระบบการศึกษาที่ไม่ได้หล่อหลอมให้คนไทยและเกษตรกรมีความเข้มแข็ง และจิตวิญญาณที่จะต่อสู้ และขอให้คำนึงว่าแผ่นดินหมายถึงความเป็นชาติ และถ้าไม่มีความรักแผ่นดินก็จะทำให้ชาติเสื่อมได้
