นายสมชาย เศรษฐกรนุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอนแก่น กล่าวว่า แม้ขณะนี้ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศจะคลี่คลายลง แต่ปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง ยังเป็นความเสี่ยงที่สำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ถือแม้เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับภาวะยากลำบากมากขึ้นในปีนี้ แต่มีปัจจัยหลายประการที่เชื่อว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยผ่านบททดสอบครั้งสำคัญนี้ไปได้
ประการแรก เสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคอยู่ในเกณฑ์ดี ประการที่สอง ระบบสถาบันการเงินมีความแข็งแกร่งรองรับวิกฤตการเงินโลก และสามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลางทางการเงินต่อไปได้ ประการที่สาม ภาคเอกชนมีความแข็งแกร่งกว่าอดีตมาก สุดท้ายคือ นโยบายเศรษฐกิจมหภาค ทั้งนโยบายการเงินและการคลังของราชการ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเศรษฐกิจ ภายใต้วินัยทางการเงินและการคลัง จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อไปได้
โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ชี้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวเฉลี่ยทั้งปี ร้อยละ 0-2 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 0.5-1.5 ต่อปี ทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปบางเดือนอาจจะติดลบ ซึ่งเป็นผลจากการปรับลดลงอย่างมากของราคาน้ำมัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ประการแรก เสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคอยู่ในเกณฑ์ดี ประการที่สอง ระบบสถาบันการเงินมีความแข็งแกร่งรองรับวิกฤตการเงินโลก และสามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลางทางการเงินต่อไปได้ ประการที่สาม ภาคเอกชนมีความแข็งแกร่งกว่าอดีตมาก สุดท้ายคือ นโยบายเศรษฐกิจมหภาค ทั้งนโยบายการเงินและการคลังของราชการ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเศรษฐกิจ ภายใต้วินัยทางการเงินและการคลัง จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อไปได้
โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ชี้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวเฉลี่ยทั้งปี ร้อยละ 0-2 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 0.5-1.5 ต่อปี ทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปบางเดือนอาจจะติดลบ ซึ่งเป็นผลจากการปรับลดลงอย่างมากของราคาน้ำมัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
