หลังการประชุมพิจารณากระทู้ถามสดเสร็จสิ้น มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ ที่เลื่อนมาจากการประชุมเมื่อวานนี้ (4 ก.พ.) โดยก่อนเข้าสู่วาระ นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ก่อนปิดประชุมเมื่อวานนี้ ตนได้เสนอให้นับองค์ประชุมโดยวิธีการขานชื่อ จึงขอให้ดำเนินการตามญัตติที่เสนอค้างไว้ก่อน เพราะเชื่อว่า มีสมาชิกบางคนไม่ได้อยู่ในที่ประชุม แต่กลับใช้สิทธิแสดงตนในที่ประชุม จึงเชื่อว่า มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งมีความเป็นห่วงองค์ประชุมไม่ครบ
ด้าน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุม วินิจฉัยว่า หากเรื่องดังกล่าวเป็นจริง ถือว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม แต่เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการพิจารณากฎหมาย จึงขอเสนอให้นายประชา ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวน ส่วนจะวินิจฉัยและดำเนินการอย่างไร ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการและประธานสภาผู้แทนราษฎร
นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอให้มีการตรวจสอบระบบการลงคะแนน เพราะหลายครั้งที่เครื่องมักมีปัญหา จากนั้น น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ซึ่งมีการแถลงนโยบายของรัฐบาล พบว่า มีการลงคะแนนโดย ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ในลำดับที่ 52 แต่ตนได้ตรวจสอบแล้ว สมาชิกคนดังกล่าวเป็นรัฐมนตรี แต่ไม่ได้มีการลงชื่อเข้าร่วมประชุม เมื่อตรวจสอบจากโทรทัศน์วงจรปิดแล้วก็ไม่มี แต่ทำไมจึงมีหลักฐานการลงมติ จึงขอให้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบด้วย
ด้านนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า วันนี้นายตุ่นไม่ได้เข้าร่วมประชุม แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อคืนวานนี้ได้มีการสอบถามแล้ว โดยยืนยันได้ว่า ไม่มีสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาคนใดกดบัตรแทน อีกทั้งนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค เป็นนักกฎหมาย ได้กำชับเรื่องนี้เสมอในการประชุมพรรค จึงเชื่อว่าไม่มีสมาชิกของพรรคคนใดกดบัตรแทนอย่างแน่นอน
จากนั้น พ.อ.อภิวันท์ ได้ขอหารือกับนายประชา ว่าจะยืนยันให้มีการนับองค์ประชุมโดยการขานชื่อหรือไม่ หากจะนับองค์ประชุมจริง ขอเสนอให้ตรวจสอบองค์ประชุมด้วยการกดบัตรแสดงตนแทน เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ ซึ่งนายประชาได้ยินยอม ประธานฯ จึงสั่งให้สมาชิกแสดงตนโดยวิธีกดบัตร โดยก่อนการกดบัตรแสดงตนได้มีสมาชิกหลายคนลุกขึ้นประท้วง โดยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากปล่อยให้มีการนับองค์ประชุมกันได้บ่อยครั้ง ย่อมทำให้การประชุมเกิดความเสียหาย จึงขอเสนอให้ประธานสภาฯ และรองประธานฯ ไปหารือกันว่า ควรมีมาตรฐานในการนับองค์ประชุมอย่างไร จะนับกันทุก 15 นาที หรือจะนับกันทุกระยะเวลาเท่าใด ทั้งนี้ ประธานสภาฯ และสมาชิกมีสิทธิในการตรวจสอบองค์ประชุม แต่หากปล่อยให้มีการนับองค์ประชุมกันอย่างไม่มีขอบเขต จะทำให้เกิดความเสียหาย
ด้านนายอรรถวิทย์ สุวรรณภักดี ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้การนับองค์ประชุมมีการแสดงผลว่า มี ส.ส.ในห้องประชุมจำนวนเท่าใด แบ่งเป็น ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาลเท่าใด ทั้งนี้ เพราะหลายครั้งที่สมาชิกหลายคนอยู่ในห้องประชุม แต่ไม่กดบัตร จากนั้นประธานฯ ได้สั่งให้กดบัตรแสดงตน เพื่อนับองค์ประชุม โดยผลการนับองค์ประชุมมีสมาชิกจำนวน 249 คน
ด้าน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุม วินิจฉัยว่า หากเรื่องดังกล่าวเป็นจริง ถือว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม แต่เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการพิจารณากฎหมาย จึงขอเสนอให้นายประชา ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวน ส่วนจะวินิจฉัยและดำเนินการอย่างไร ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการและประธานสภาผู้แทนราษฎร
นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอให้มีการตรวจสอบระบบการลงคะแนน เพราะหลายครั้งที่เครื่องมักมีปัญหา จากนั้น น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ซึ่งมีการแถลงนโยบายของรัฐบาล พบว่า มีการลงคะแนนโดย ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ในลำดับที่ 52 แต่ตนได้ตรวจสอบแล้ว สมาชิกคนดังกล่าวเป็นรัฐมนตรี แต่ไม่ได้มีการลงชื่อเข้าร่วมประชุม เมื่อตรวจสอบจากโทรทัศน์วงจรปิดแล้วก็ไม่มี แต่ทำไมจึงมีหลักฐานการลงมติ จึงขอให้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบด้วย
ด้านนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า วันนี้นายตุ่นไม่ได้เข้าร่วมประชุม แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อคืนวานนี้ได้มีการสอบถามแล้ว โดยยืนยันได้ว่า ไม่มีสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาคนใดกดบัตรแทน อีกทั้งนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค เป็นนักกฎหมาย ได้กำชับเรื่องนี้เสมอในการประชุมพรรค จึงเชื่อว่าไม่มีสมาชิกของพรรคคนใดกดบัตรแทนอย่างแน่นอน
จากนั้น พ.อ.อภิวันท์ ได้ขอหารือกับนายประชา ว่าจะยืนยันให้มีการนับองค์ประชุมโดยการขานชื่อหรือไม่ หากจะนับองค์ประชุมจริง ขอเสนอให้ตรวจสอบองค์ประชุมด้วยการกดบัตรแสดงตนแทน เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ ซึ่งนายประชาได้ยินยอม ประธานฯ จึงสั่งให้สมาชิกแสดงตนโดยวิธีกดบัตร โดยก่อนการกดบัตรแสดงตนได้มีสมาชิกหลายคนลุกขึ้นประท้วง โดยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากปล่อยให้มีการนับองค์ประชุมกันได้บ่อยครั้ง ย่อมทำให้การประชุมเกิดความเสียหาย จึงขอเสนอให้ประธานสภาฯ และรองประธานฯ ไปหารือกันว่า ควรมีมาตรฐานในการนับองค์ประชุมอย่างไร จะนับกันทุก 15 นาที หรือจะนับกันทุกระยะเวลาเท่าใด ทั้งนี้ ประธานสภาฯ และสมาชิกมีสิทธิในการตรวจสอบองค์ประชุม แต่หากปล่อยให้มีการนับองค์ประชุมกันอย่างไม่มีขอบเขต จะทำให้เกิดความเสียหาย
ด้านนายอรรถวิทย์ สุวรรณภักดี ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้การนับองค์ประชุมมีการแสดงผลว่า มี ส.ส.ในห้องประชุมจำนวนเท่าใด แบ่งเป็น ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาลเท่าใด ทั้งนี้ เพราะหลายครั้งที่สมาชิกหลายคนอยู่ในห้องประชุม แต่ไม่กดบัตร จากนั้นประธานฯ ได้สั่งให้กดบัตรแสดงตน เพื่อนับองค์ประชุม โดยผลการนับองค์ประชุมมีสมาชิกจำนวน 249 คน
