นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ปศท.) ร่วมกันเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 6/10 หมู่ 4 อาคารหมู่บ้านวิโรจน์วิว ถ.สาย 345 ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และบ้านเลขที่ 99 ม.12 ถ.ลาดบัวหลวง ต.หินมล อ.บางเลน จ.นครปฐม สถานที่เก็บและแหล่งลักลอบผลิตเครื่องสำอางผิดกฎหมาย ยี่ห้อ Dr. JAPAN
ทั้งนี้จากการตรวจค้นพบการลักลอบผลิตเครื่องสำอางที่ผสมสารห้ามใช้ ทั้งสบู่ และครีมทาสิวฝ้า พร้อมกับเครื่องสำอางยี่ห้อ Mei Zhen บรรจุแล้วในตลับสีแดง รวมทั้งสมุนไพรรักษาสิวฝ้า ผลิตโดยศูนย์วิจัยหมอจุฬา ที่ตรวจแล้วพบมีสารประกอบของปรอทผสมอยู่ นอกจากนี้พบอุปกรณ์เครื่องจักรการผลิตเครื่องสำอาง อาทิ เครื่องปั่นครีม เครื่องแบ่งบรรจุครีมอัตโนมัติ และเครื่องบรรจุโลชั่นอัตโนมัติ รวมทั้ง 2 แห่ง พบเครื่องสำอางที่ผิดกฎหมาย มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลางไว้และส่งดำเนินคดี ข้อหาผลิตเพื่อขายเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผลิตเครื่องสำอางปลอม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเตือนประชาชนอย่าซื้อเครื่องสำอางยี่ห้อดังกล่าวมาใช้เด็ดขาด เพราะสารปรอทที่พบเป็นส่วนผสม จะทำให้เกิดการแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าดำ เกิดพิษสะสม ทำให้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และไตอักเสบ หากต้องการใช้เครื่องสำอางต้องซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและมีฉลากภาษาไทยรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เท่านั้น หากไม่แน่ใจในสินค้าสามารถตรวจสอบรายชื่อผลิตภัณฑ์ห้ามใช้ที่เคยประกาศไว้แล้วได้ทางเว็บไซต์ www.fda.moph.go.th
ทั้งนี้จากการตรวจค้นพบการลักลอบผลิตเครื่องสำอางที่ผสมสารห้ามใช้ ทั้งสบู่ และครีมทาสิวฝ้า พร้อมกับเครื่องสำอางยี่ห้อ Mei Zhen บรรจุแล้วในตลับสีแดง รวมทั้งสมุนไพรรักษาสิวฝ้า ผลิตโดยศูนย์วิจัยหมอจุฬา ที่ตรวจแล้วพบมีสารประกอบของปรอทผสมอยู่ นอกจากนี้พบอุปกรณ์เครื่องจักรการผลิตเครื่องสำอาง อาทิ เครื่องปั่นครีม เครื่องแบ่งบรรจุครีมอัตโนมัติ และเครื่องบรรจุโลชั่นอัตโนมัติ รวมทั้ง 2 แห่ง พบเครื่องสำอางที่ผิดกฎหมาย มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลางไว้และส่งดำเนินคดี ข้อหาผลิตเพื่อขายเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผลิตเครื่องสำอางปลอม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเตือนประชาชนอย่าซื้อเครื่องสำอางยี่ห้อดังกล่าวมาใช้เด็ดขาด เพราะสารปรอทที่พบเป็นส่วนผสม จะทำให้เกิดการแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าดำ เกิดพิษสะสม ทำให้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และไตอักเสบ หากต้องการใช้เครื่องสำอางต้องซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและมีฉลากภาษาไทยรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เท่านั้น หากไม่แน่ใจในสินค้าสามารถตรวจสอบรายชื่อผลิตภัณฑ์ห้ามใช้ที่เคยประกาศไว้แล้วได้ทางเว็บไซต์ www.fda.moph.go.th
