ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด แถลงในวันพุธ(28)ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินว่า ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเกือบเท่ากับ 0% ต่อไป พร้อมกันนั้นก็เดินหน้าไปอีกขั้นหนึ่งในเรื่องแผนการที่จะรับซื้อตราสารหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ อันจะเป็นการเปิดแนวรบใหม่สำหรับการแก้ไขวิกฤตการณ์สินเชื่อตึงตัว ซึ่งนอกจากทำให้เศรษฐกิจทรุดตัวอย่างรวดเร็วแล้ว ยังส่อเค้าอาจจะเป็นชนวนให้เกิดภาวะเงินฝืดรุนแรงอีกด้วย
คณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด(เอฟโอเอ็มซี) ที่ประชุมกันเป็นเวลา 2 วัน (27-28) ได้มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย "เฟดฟันด์เรต" หรือเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ระหว่างกันในชั่วเวลาข้ามคืน เอาไว้ที่ระดับ 0 - 0.25 เปอร์เซ็นต์ต่อไป โดยในคำแถลงบอกว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับต่ำเช่นนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง
เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ต่ำเตี้ย จนไม่สามารถใช้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นเครื่องมือได้อีก เฟดก็บอกในคำแถลงว่า เตรียมพร้อมจะใช้ยุทธวิธีใหม่คือการเข้าซื้อตั๋วเงินและพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ในกรณีที่เห็นว่าจะสามารถช่วยคลี่คลายภาวะสินเชื่อตึงตัวได้
การรับซื้อตราสารหนี้รัฐบาลของเฟด จะทำให้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ลดต่ำลง จึงเห็นกันว่าจะสามารถช่วยคลี่คลายแก้ปัญหาการทรุดตัวของตลาดบ้านพักอาศัย ซึ่งเป็นมูลเหตุสำคัญของวิกฤตการณ์ครั้งนี้
คณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด(เอฟโอเอ็มซี) ที่ประชุมกันเป็นเวลา 2 วัน (27-28) ได้มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย "เฟดฟันด์เรต" หรือเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ระหว่างกันในชั่วเวลาข้ามคืน เอาไว้ที่ระดับ 0 - 0.25 เปอร์เซ็นต์ต่อไป โดยในคำแถลงบอกว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับต่ำเช่นนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง
เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ต่ำเตี้ย จนไม่สามารถใช้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นเครื่องมือได้อีก เฟดก็บอกในคำแถลงว่า เตรียมพร้อมจะใช้ยุทธวิธีใหม่คือการเข้าซื้อตั๋วเงินและพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ในกรณีที่เห็นว่าจะสามารถช่วยคลี่คลายภาวะสินเชื่อตึงตัวได้
การรับซื้อตราสารหนี้รัฐบาลของเฟด จะทำให้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ลดต่ำลง จึงเห็นกันว่าจะสามารถช่วยคลี่คลายแก้ปัญหาการทรุดตัวของตลาดบ้านพักอาศัย ซึ่งเป็นมูลเหตุสำคัญของวิกฤตการณ์ครั้งนี้