นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ยืนยันถึงความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคมนี้ ว่า ขณะนี้มีความพร้อมอย่างเต็มที่ โดยวันพรุ่งนี้ (10 ม.ค.) จะแจกอุปกรณ์ให้แก่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ทั้งการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. และการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งคาดว่าการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.จะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการในเวลา 21.00 น. โดยกำชับให้ กกต.จังหวัด รายงานผลเข้ามาเป็นระยะ
ส่วนการนับคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นการนับคะแนนรวมที่สำนักงานเขต คาดว่าจะทราบผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการในเวลา 22.00 น. ซึ่ง กกต.ประสานกับตำรวจจัดทำแผนพิทักษ์การเลือกตั้ง ไว้รับมือกับการก่อกวนหรือขัดขวางการเลือกตั้งของบุคคลบางกลุ่ม โดยให้ความมั่นใจว่าประชาชนจะสามารถเดินทางไปใช้สิทธิ์ได้อย่างปลอดภัยทุกพื้นที่เขตการเลือกตั้ง
นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานความผิดปกติ โดยเชื่อว่าการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ทั้ง 22 จังหวัด ไม่น่าจะมีปัญหา แต่หากมีกลุ่มคนบางกลุ่มข่มขู่ให้เลือกหรือไม่เลือกผู้สมัคร ส.ส.คนใด อาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 53 (5) ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง มีกำหนด 10 ปี
ด้านนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวน กล่าวว่า กกต.เป็นห่วงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยมีการหารือกันเบื้องต้นว่าอาจจะมีการออกมาตรการหรือระเบียบเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่จะทำให้ไม่กระทบต่อการใช้สิทธิ์เลือกตั้งของประชาชน โดยเบื้องต้น กกต.มีเพียงกฎหมายเลือกตั้งในกรณีดังกล่าว ซึ่งอาจไม่สามารถไปบังคับบุคคลภายนอกได้
ส่วนการไปก่อกวนหรือขัดขวางในระหว่างการหาเสียง หรือไปชุมนุมที่บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้ง ถ้าพบว่าเป็นคนของผู้สมัครรับเลือกตั้ง จะสามารถดำเนินการได้ แต่ก็ต้องมีผู้ร้องเรียนเข้ามา
ส่วนการนับคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นการนับคะแนนรวมที่สำนักงานเขต คาดว่าจะทราบผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการในเวลา 22.00 น. ซึ่ง กกต.ประสานกับตำรวจจัดทำแผนพิทักษ์การเลือกตั้ง ไว้รับมือกับการก่อกวนหรือขัดขวางการเลือกตั้งของบุคคลบางกลุ่ม โดยให้ความมั่นใจว่าประชาชนจะสามารถเดินทางไปใช้สิทธิ์ได้อย่างปลอดภัยทุกพื้นที่เขตการเลือกตั้ง
นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานความผิดปกติ โดยเชื่อว่าการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ทั้ง 22 จังหวัด ไม่น่าจะมีปัญหา แต่หากมีกลุ่มคนบางกลุ่มข่มขู่ให้เลือกหรือไม่เลือกผู้สมัคร ส.ส.คนใด อาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 53 (5) ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง มีกำหนด 10 ปี
ด้านนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวน กล่าวว่า กกต.เป็นห่วงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยมีการหารือกันเบื้องต้นว่าอาจจะมีการออกมาตรการหรือระเบียบเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่จะทำให้ไม่กระทบต่อการใช้สิทธิ์เลือกตั้งของประชาชน โดยเบื้องต้น กกต.มีเพียงกฎหมายเลือกตั้งในกรณีดังกล่าว ซึ่งอาจไม่สามารถไปบังคับบุคคลภายนอกได้
ส่วนการไปก่อกวนหรือขัดขวางในระหว่างการหาเสียง หรือไปชุมนุมที่บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้ง ถ้าพบว่าเป็นคนของผู้สมัครรับเลือกตั้ง จะสามารถดำเนินการได้ แต่ก็ต้องมีผู้ร้องเรียนเข้ามา
