ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กกต.ภูเก็ตเร่งตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครนายก อบจ.-ส.อบจ.ภูเก็ต เชื่อคนใช้สิทธิไม่น้อยกว่า 70%
นายสุภาพ อรรคคำ ผู้ อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต
การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ก็คือปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งหลังจากปิดรับสมัครแล้ว จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครให้เสร็จภายใน 7 วัน ซึ่งวันสุดท้ายก็คือวันที่ 29 มีนาคม
หลังจากประกาศรับใคร และไม่รับใครแล้ว ผู้สมัครทุกคนหรือผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สามารถที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อ กกต.จังหวัดได้ภายใน 3 วัน เพราะฉะนั้น กฤษฎีกาจะตีความออกมาผิดหรือไม่ผิด ก็ต้องรู้ว่าเข้าลักษณะขาดคุณสมบัติตามกฎหมายขององค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือไม่ ถ้าเข้าลักษณะขาดคุณสมบัติ ถ้าก่อนประกาศรับสมัครก่อนวันที่ 29 นั้นก็เป็นอำนาจหน้าที่ของปลัดอบจ. ถ้าหลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด
“หากผู้สมัครเหลือคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขาดคุณสมบัติ จนกระทั่งมีผู้สมัครเพียงหนึ่งคน กฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นเขียนเอาไว้ว่า คะแนนเสียงที่จะได้รับการประกาศผลต้องไม่น้อยกว่า 10%”
ส่วนเรื่องของการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ภูเก็ต และส.อบจ.ภูเก็ต เนื่องจากการเลือกตั้งของท้องถิ่น ผู้สมัครส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ มีพรรคพวกเพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้องเป็นจำนวนมาก และก็เป็นที่รู้จักของพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ตทำให้การหาเสียงค่อนข้างที่จะคึกคัก และก็เชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นของภูเก็ตในครั้งนี้จะมีประชาชนมาใช้สิทธิไม่น้อยกว่า 70% จาก จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีประมาณ 21,5000 กว่าคน ส่วนในเรื่องของบัตรเสียนั้น หากมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ดี คิดว่าบัตรเสียน่าจะไม่เกินร้อยละ 3
นายสุภาพ กล่าวต่อไปว่า สำหรับในส่วนของหน่วยเลือกตั้ง จากพื้นฐานเดิมมี 311 หน่วย แต่เมื่อดูจำนวนผู้มีสิทธิแต่ละหน่วยหลังจากการเลือกตั้ง ส.ว.น่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 30 หน่วย และขณะนี้อยู่ระหว่างการดูยอดของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งก่อนที่จะประกาศหน่วยเลือกตั้ง
ส่วนสถานที่นับคะแนนเลือกตั้งยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่จากที่ได้มีการพูดคุยกันในชั้นของกรรมการการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต จะนับที่อำเภอ กล่าวคือแต่ละอำเภอจะมีจุดนับนายกฯ และจุดนับของ ส.จ.อย่างอำเภอถลาง ส.จ.เขตก็จะใช้โรงเรียนเมือง และโรงเรียนถลางพระนางสร้าง อำเภอกะทู้ ที่โรงยิม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และที่อำเภอเมือง ส.จ.จะนับที่วิทยาลัยอาชีวะ และวิทยาลัยสารพัดช่าง ส่วนของนายกฯ นั้นคาดว่าจะนับที่โรงยิมสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต
นอกจากนี้ นายสุภาพยังได้กล่าวถึงการรักษาความสงบเรียบร้อยในวันนับคะแนนเลือกตั้ง 20 เมษายน 2551 ด้วยว่า ในเรื่องของการรักษาความสงบเรียบร้อยก็ทำตามปกติ เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรง หรือที่ส่อไปในทางที่จะทำให้การนับคะแนนมีปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการ และในวันดังกล่าว ขอเชิญชวนประชาชนร่วมสังเกตการณ์ การนับคะแนนเลือกตั้งเพื่อเป็นสักขีพยานในการนับคะแนนด้วย
นายสุภาพ อรรคคำ ผู้ อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต
การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ก็คือปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งหลังจากปิดรับสมัครแล้ว จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครให้เสร็จภายใน 7 วัน ซึ่งวันสุดท้ายก็คือวันที่ 29 มีนาคม
หลังจากประกาศรับใคร และไม่รับใครแล้ว ผู้สมัครทุกคนหรือผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สามารถที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อ กกต.จังหวัดได้ภายใน 3 วัน เพราะฉะนั้น กฤษฎีกาจะตีความออกมาผิดหรือไม่ผิด ก็ต้องรู้ว่าเข้าลักษณะขาดคุณสมบัติตามกฎหมายขององค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือไม่ ถ้าเข้าลักษณะขาดคุณสมบัติ ถ้าก่อนประกาศรับสมัครก่อนวันที่ 29 นั้นก็เป็นอำนาจหน้าที่ของปลัดอบจ. ถ้าหลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด
“หากผู้สมัครเหลือคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขาดคุณสมบัติ จนกระทั่งมีผู้สมัครเพียงหนึ่งคน กฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นเขียนเอาไว้ว่า คะแนนเสียงที่จะได้รับการประกาศผลต้องไม่น้อยกว่า 10%”
ส่วนเรื่องของการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ภูเก็ต และส.อบจ.ภูเก็ต เนื่องจากการเลือกตั้งของท้องถิ่น ผู้สมัครส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ มีพรรคพวกเพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้องเป็นจำนวนมาก และก็เป็นที่รู้จักของพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ตทำให้การหาเสียงค่อนข้างที่จะคึกคัก และก็เชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นของภูเก็ตในครั้งนี้จะมีประชาชนมาใช้สิทธิไม่น้อยกว่า 70% จาก จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีประมาณ 21,5000 กว่าคน ส่วนในเรื่องของบัตรเสียนั้น หากมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ดี คิดว่าบัตรเสียน่าจะไม่เกินร้อยละ 3
นายสุภาพ กล่าวต่อไปว่า สำหรับในส่วนของหน่วยเลือกตั้ง จากพื้นฐานเดิมมี 311 หน่วย แต่เมื่อดูจำนวนผู้มีสิทธิแต่ละหน่วยหลังจากการเลือกตั้ง ส.ว.น่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 30 หน่วย และขณะนี้อยู่ระหว่างการดูยอดของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งก่อนที่จะประกาศหน่วยเลือกตั้ง
ส่วนสถานที่นับคะแนนเลือกตั้งยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่จากที่ได้มีการพูดคุยกันในชั้นของกรรมการการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต จะนับที่อำเภอ กล่าวคือแต่ละอำเภอจะมีจุดนับนายกฯ และจุดนับของ ส.จ.อย่างอำเภอถลาง ส.จ.เขตก็จะใช้โรงเรียนเมือง และโรงเรียนถลางพระนางสร้าง อำเภอกะทู้ ที่โรงยิม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และที่อำเภอเมือง ส.จ.จะนับที่วิทยาลัยอาชีวะ และวิทยาลัยสารพัดช่าง ส่วนของนายกฯ นั้นคาดว่าจะนับที่โรงยิมสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต
นอกจากนี้ นายสุภาพยังได้กล่าวถึงการรักษาความสงบเรียบร้อยในวันนับคะแนนเลือกตั้ง 20 เมษายน 2551 ด้วยว่า ในเรื่องของการรักษาความสงบเรียบร้อยก็ทำตามปกติ เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรง หรือที่ส่อไปในทางที่จะทำให้การนับคะแนนมีปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการ และในวันดังกล่าว ขอเชิญชวนประชาชนร่วมสังเกตการณ์ การนับคะแนนเลือกตั้งเพื่อเป็นสักขีพยานในการนับคะแนนด้วย