xs
xsm
sm
md
lg

เตือน ปชช.อย่าชะล่าใจ"โรคหมาบ้า"ช่วงหน้าหนาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในช่วงหน้าหนาวนี้สิ่งที่ประชาชนมักมองข้ามเรื่องหนึ่ง คือ โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) หรือที่เรียกว่าโรคหมาบ้า โรคหมาหว้อ ซึ่งคนไทยยังเข้าใจกันว่าโรคนี้มักเกิดในฤดูร้อน ซึ่งแท้จริงแล้วโรคนี้พบในฤดูหนาว และเป็นฤดูกาลแพร่โรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ โดยเฉพาะสุนัข เนื่องจากหน้าหนาวของไทยเริ่มประมาณเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นฤดูกาลผสมพันธุ์ของสุนัข สุนัขตัวผู้จะต่อสู้เพื่อแย่งชิงสุนัขตัวเมียและปกป้องอาณาเขต หากตัวใดมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า เชื้อจะถ่ายทอดทางน้ำลายไปสู่ตัวอื่น และนำเชื้อมาสู่คนโดยการกัด ข่วน หรือเลีย หลังรับเชื้อแล้วส่วนมาก คนจะแสดงอาการป่วยประมาณ 4 วัน จนถึง 3-4 ปีก็ได้ แต่ส่วนใหญ่ไม่เกิน 1 ปี
ฉะนั้น จึงขอเตือนประชาชนอย่าชะล่าใจ หลังถูกสุนัขกัดต้องรีบล้างแผลให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่หลายๆ ครั้ง ใส่ยารักษาแผลสด แล้วไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีน จะป้องกันการเกิดโรคได้ หากหลังถูกกัดแล้วปล่อยไว้จนมีอาการป่วย จะเสียชีวิตทุกราย เนื่องจากโรคนี้ไม่มียารักษา
จากการเฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้าในปี 2551 ตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงขณะนี้ ทั่วประเทศพบผู้ป่วย 5 ราย ที่ จ.สระแก้ว เลย หนองบัวลำภู สุรินทร์ และกทม. เสียชีวิตทั้งหมด
ทางด้านนายแพทย์หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ต่อปีมีผู้ถูกสุนัขกัดและได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เฉลี่ยปีละ 400,000 กว่าราย สุนัขทุกวัยมีโอกาสเป็นโรคนี้ ลูกสุนัขก็เป็นได้ โดยได้รับเชื้อมาจากแม่ขณะเลียปากลูกสุนัข อาการของสุนัขที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า มีทั้งแบบซึมและแบบดุร้าย โดยชนิดซึม สุนัขจะหลบซุกตัวในมุมมืด ถ้าถูกรบกวนอาจจะกัด บางตัวอาจแสดงอาการคล้ายกระดูกหรือก้างติดคอ ทำให้เจ้าของเข้าใจผิด คิดว่ากระดูกติดคอ พยายามล้วงปากสุนัขเพื่อหาเศษกระดูก ทำให้ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าโดยไม่รู้ตัว ส่วนชนิดดุร้ายจะมีอาการทางประสาท กระวนกระวาย หงุดหงิด ดุร้าย กัดทุกสิ่งที่ขวางหน้า ในระยะสุดท้ายสุนัขจะมีขากรรไกรแข็ง ปากอ้า ลิ้นห้อย น้ำลายไหล วิ่งไม่มีจุดหมาย อัมพาต และตายในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น