วันนี้ (22 ธ.ค.) เวลา 09.30 น. นางพิมพลักษณ์ บุญลือ มารดา ร.ต.ต.กฤติกุล บุญลือ หรือ หมวดตี้ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ประเทศไทยได้รัฐบาลและมีนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศ แต่อยากจะฝากถึงนายกรัฐมนตรีให้ช่วยแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีทีท่าว่าเหตุการณ์จะสงบลงโดยง่าย การเอาใจใส่และให้ความสำคัญ รวมถึงขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องเร่งทำ โดยเฉพาะตำรวจพลร่ม ตำรวจตระเวนชายแดน และทหาร ซึ่งหากรัฐบาลยังเห็นความสำคัญของกลุ่มบุคคลเหล่านี้อยู่ ก็ควรสนับสนุนงบประมาณและกำลังพลลงไปช่วยเหลือ และตนเองในฐานะเป็นแม่ที่สูญเสียลูก จากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ภาคใต้ ขอเป็นกำลังใจให้ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ทุกคน และขอให้ภูมิใจเสมอว่าทุกคนที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ เป็นผู้ที่เสียสละ และตนเองจะขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน
นางพิมพลักษณ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้หนังสือที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับสั่งให้จัดพิมพ์และซื้อ เพื่อใช้ในโครงการส่วนพระองค์ ในการพระราชทานให้กับตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 30,000 เล่ม ได้จัดส่งให้กับท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขาธิการในพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ไปหมดแล้ว โดยค่าจัดพิมพ์ทั้งหมดสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับไว้ และจะสนับสนุนเงินเข้าสมทบกองทุนหมวดตี้ เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป
นางพิมพลักษณ์ ระบุว่า ยอดเงินสมทบเข้ากองทุนหมวดตี้ ขณะนี้มียอดโดยรวมแล้วกว่า 500,000 บาท ซึ่งเงินที่ได้เป็นเงินที่ได้จากการขายหนังสือหมวดตี้ อีกส่วนเป็นเงินที่ได้จากการบริจาค และที่ผ่านมาได้จัดสรรให้กับโรงเรียนที่มีความยากจนและวัดในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ลพบุรี ไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ตนเองจะย้ายมาดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหมี่วิทยา จ.ลพบุรี แล้ว หากข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดน หรือตำรวจ และข้าราชการ ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้คนใดต้องการขอรับการสนับสนุน สามารถติดต่อได้ทันที
นางพิมพลักษณ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้หนังสือที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับสั่งให้จัดพิมพ์และซื้อ เพื่อใช้ในโครงการส่วนพระองค์ ในการพระราชทานให้กับตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 30,000 เล่ม ได้จัดส่งให้กับท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขาธิการในพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ไปหมดแล้ว โดยค่าจัดพิมพ์ทั้งหมดสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับไว้ และจะสนับสนุนเงินเข้าสมทบกองทุนหมวดตี้ เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป
นางพิมพลักษณ์ ระบุว่า ยอดเงินสมทบเข้ากองทุนหมวดตี้ ขณะนี้มียอดโดยรวมแล้วกว่า 500,000 บาท ซึ่งเงินที่ได้เป็นเงินที่ได้จากการขายหนังสือหมวดตี้ อีกส่วนเป็นเงินที่ได้จากการบริจาค และที่ผ่านมาได้จัดสรรให้กับโรงเรียนที่มีความยากจนและวัดในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ลพบุรี ไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ตนเองจะย้ายมาดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหมี่วิทยา จ.ลพบุรี แล้ว หากข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดน หรือตำรวจ และข้าราชการ ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้คนใดต้องการขอรับการสนับสนุน สามารถติดต่อได้ทันที
