นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากเป็นนายกรัฐมนตรีจะลงมาดูแลด้านเศรษฐกิจด้วยตนเองนั้น แสดงให้เห็นว่านายอภิสิทธิ์ ได้ให้ความสำคัญในด้านนี้เป็นอันดับต้นๆ พร้อมกับเชื่อว่า หากผู้นำลงมาดูแลเองน่าจะทำให้สถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายได้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากจะเรียกความเชื่อมั่นคงต้องให้การเมืองมีเสถียรภาพ ลดความขัดแย้ง รวมถึงมีความแข็งแกร่ง ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวได้ รวมถึงต้องเร่งออกนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งด้านการลงทุน และการท่องเที่ยว แต่ถ้าหากการเมืองยังคงมีปัญหาความขัดแย้ง การกระตุ้นเศรษฐกิจก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
นอกจากนี้ ก่อนเกิดปัญหาทางการเมือง หลายฝ่ายมองว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2552 GDP จะขยายตัวได้ร้อยละ 3-4 ซึ่งหากมองในขณะนี้คงขยายตัวไม่ถึง และเป็นไปได้ยาก ทั้งนี้ มองว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ
อย่างไรก็ตาม หากจะเรียกความเชื่อมั่นคงต้องให้การเมืองมีเสถียรภาพ ลดความขัดแย้ง รวมถึงมีความแข็งแกร่ง ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวได้ รวมถึงต้องเร่งออกนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งด้านการลงทุน และการท่องเที่ยว แต่ถ้าหากการเมืองยังคงมีปัญหาความขัดแย้ง การกระตุ้นเศรษฐกิจก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
นอกจากนี้ ก่อนเกิดปัญหาทางการเมือง หลายฝ่ายมองว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2552 GDP จะขยายตัวได้ร้อยละ 3-4 ซึ่งหากมองในขณะนี้คงขยายตัวไม่ถึง และเป็นไปได้ยาก ทั้งนี้ มองว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ