นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีการปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2551 นั้น เป็นการส่งสัญญาณขาลงของเศรษฐกิจไทยอย่างชัดเจน ทั้งจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและปัจจัยการเมืองในประเทศ และหากยังไม่มีรัฐบาลที่มั่นคงมาบริหารประเทศจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้าขยายตัวติดลบ โดยในช่วงไตรมาสที่ 1 ติดลบร้อยละ 1-2 และไตรมาสที่ 2 ติดลบร้อยละ 2-3 และจะทำให้การจ้างงานลดลงเนื่องจากเศรษฐกิจที่ไม่ขยายตัว โดยจะมีตัวเลขคนว่างงานอาจสูงถึง 1,000,000 คน
นอกจากนี้ นายธนวรรธน์ ยังกล่าวอีกว่า หากการเมืองไม่มีการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐจะเป็นปัจจัยเดียวในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ แต่หากทำไม่ได้เศรษฐกิจของประเทศไทยในปีหน้าจะติดลบทั้งปีอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ นายธนวรรธน์ ยังกล่าวอีกว่า หากการเมืองไม่มีการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐจะเป็นปัจจัยเดียวในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ แต่หากทำไม่ได้เศรษฐกิจของประเทศไทยในปีหน้าจะติดลบทั้งปีอย่างแน่นอน