พล.ต.บี ทู ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองกำลังกะเหรี่ยงคะยา เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลพม่าส่งทหารสังกัดกองบัญชาการควบคุมที่ 17 กว่า 5 กองพัน เดินทางจากเมืองลอยก่อ เมืองหลวงรัฐคะยา มุ่งหน้าไปยังฐานยามู ซึ่งเป็นที่มั่นของกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา ที่อยู่ติดกับชายแดนไทยด้าน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน
หน่วยข่าวกรองกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา ระบุว่า ทหารพม่านั่งรถบรรทุก 30 คัน มุ่งหน้าสู่ฐานยามู ในเวลากลางคืน เพื่ออำพรางตัว ขณะเดียวกัน ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยงคะยาสั่งเตรียมพร้อมสูงสุด โดยคาดว่ากำลังทหารพม่าจะเดินทางถึงพื้นที่ชายแดนด้าน จ.แม่ฮ่องสอน ในวันนี้
ฐานยามู เป็นที่มั่นสุดท้ายของกองกำลังกะเหรี่ยงคะยาที่แข็งแกร่งที่สุด เมื่อปี 2548-2549 และเคยถูกทหารพม่าโจมตีอย่างหนัก ทำให้ราษฎรไทยต้องอพยพออกจากพื้นที่ เพราะมีกระสุนปืนใหญ่ตกเข้ามาในเขตประเทศไทยกว่า 1,000 นัด ทำให้กองทัพภาคที่ 3 สั่งให้กองพันปืนใหญ่ที่ 7 จาก จ.เชียงใหม่ เสริมกำลังตลอดแนวชายแดน และยิงเตือนฝ่ายพม่า แต่หลังการสู้รบกันนาน 6 เดือน ฝ่ายพม่าต้องเป็นฝ่ายล่าถอย
หน่วยข่าวกรองกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา ระบุว่า ทหารพม่านั่งรถบรรทุก 30 คัน มุ่งหน้าสู่ฐานยามู ในเวลากลางคืน เพื่ออำพรางตัว ขณะเดียวกัน ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยงคะยาสั่งเตรียมพร้อมสูงสุด โดยคาดว่ากำลังทหารพม่าจะเดินทางถึงพื้นที่ชายแดนด้าน จ.แม่ฮ่องสอน ในวันนี้
ฐานยามู เป็นที่มั่นสุดท้ายของกองกำลังกะเหรี่ยงคะยาที่แข็งแกร่งที่สุด เมื่อปี 2548-2549 และเคยถูกทหารพม่าโจมตีอย่างหนัก ทำให้ราษฎรไทยต้องอพยพออกจากพื้นที่ เพราะมีกระสุนปืนใหญ่ตกเข้ามาในเขตประเทศไทยกว่า 1,000 นัด ทำให้กองทัพภาคที่ 3 สั่งให้กองพันปืนใหญ่ที่ 7 จาก จ.เชียงใหม่ เสริมกำลังตลอดแนวชายแดน และยิงเตือนฝ่ายพม่า แต่หลังการสู้รบกันนาน 6 เดือน ฝ่ายพม่าต้องเป็นฝ่ายล่าถอย