xs
xsm
sm
md
lg

สมเด็จพระบรมฯ-สมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯแทนพระองค์รับการถวายพระพร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วันนี้ (4 ธ.ค.2551) เวลา 17.15 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ยังศาลาดุสิดาลัย ภายในพระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2551

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระดำเนินเข้ามาเพื่อประทับยังพระเก้าอี้ จากนั้นนายณรงค์ฤทธิ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองเลขาธิการพระราชวัง ฝ่ายที่ประทับ กราบบังคมทูลถวายรายงาน พร้อมทั้งเบิกนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนประชาชนทุกหมู่เหล่า

"ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใต้ฝ่าละอองพระบาทเสด็จฯ ออกแทนพระองค์ พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ในวโรกาสนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชานุญาตเบิกคณะบุคคล ซึ่งประกอบด้วย ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ นิสิต นักศึกษา พ่อค้า ประชาชน และผู้แทนมูลนิธิ สมาคม สโมสร องค์กรต่างๆ รวม 785 คณะ จำนวน 22,285 คน เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทเนื่องในอภิลักขิตสมัย เฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งเวียนมาบรรจบครบรอบปีอีกวาระหนึ่ง

ในวโรกาสนี้ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี จะกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล ในนามผู้ที่เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท ข้าพเจ้าค่าขอรับด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม"

จากนั้น นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล ในนามของคณะบุคคลที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท

"ในวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ในการที่จะให้ข้าราชการและประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ถวายพระพร

ขอพระราชทานกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองพระบาท เนื่องในอภิลักขิตมหามงคลสมัย คล้ายวันพระบรมราชสมภพ เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง ในวันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2551 นี้ ข้าพระพุทธเจ้า นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ต่างมีความปลาบปลื้มเป็นล้นพ้น ที่ใต้ฝ่าละอองพระบาทมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญฉัตรแก้วร่มเกล้าของปวงพสกนิกรไทย

ใต้ฝ่าละอองพระบาท เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ นับแต่เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ เมื่อพุทธศักราช 2489 เป็นต้นมา ตราบจนปัจจุบันเป็นเวลายาวนานถึง 62 ปี เป็นที่ประจักษ์ว่า ใต้ฝ่าละอองพระบาท ทรงยึดมั่นอยู่ในทศพิธราชธรรม สมดังพระปฐมบรมราชโองการ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม

พระราชกรณียกิจทั้งปวง ล้วนมุ่งสกัดทุกข์ ผดุงสุขแก่พสกนิกร และก่อให้เกิดการพัฒนาประเทศแบบยั่งยืน

ใต้ฝ่าละอองพระบาท ทรงพระกรุณาทุ่มเทอุทิศกำลังพระวรกาย กำลังพระปัญญา และกำลังพระราชทรัพย์ สร้างสรรค์ความอยู่ดีมีสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ ทรงขจัดปัดเป่าทุกข์ภัย ทั้งภัยธรรมชาติ ภัยความยากจน โรคาพยาธิภัย ตลอดจนภัยทางสังคมและเศรษฐกิจ ได้พระราชทานแนวทางการแก้ปัญหาด้วยพระบรมราโชบายที่ลึกล้ำ และบูรณาการอย่างเป็นระบบ ทรงวิเคราะห์ปัญหาอย่างถ่องแท้ จึงทรงสามารถขจัดปัดเป่า คลี่คลายปัญหานั้นได้อย่างเหมาะสมทุกประการ

โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากกว่า 3,000 โครงการ ล้วนผ่านการวิเคราะห์ วิจัย และทดลอง เพื่อให้ได้ผลเป็นข้อยุติ ก่อนพระราชทานให้ประชาชนนำไปใช้เป็นประโยชน์ในการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพ เป็นต้นว่า แนวทางทฤษฎีใหม่ด้านเกษตรกรรม และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ใต้ฝ่าละอองพระบาท เป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนา ทรงพระปรีชาสามารถ ทั้งด้านศาสตร์และศิลป์ โดยเฉพาะด้านการเกษตร ทรงเชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาเรื่องที่ดิน แหล่งน้ำ พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ทรงพระกรุณาพระราชทานแนวทางในการจัดระบบชลประทาน การสร้างฝาย อ่างเก็บน้ำ เขื่อน การทำฝนหลวง และแก้มลิง ปัญหาเรื่องน้ำได้รับการบูรณาการแก้ไขอย่างเป็นระบบ ทั้งปัญหาการขาดแคลนน้ำ และปัญหาน้ำหลาก น้ำท่วม

ใต้ฝ่าละอองพระบาท ได้พระราชทานแนวทางการแก้ปัญหาจราจรของกรุงเทพมหานคร พระราชทานพระราชดำริให้สร้างเส้นทางคมนาคมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เป็นคุณูปการแก่ราษฎร ในด้านเศรษฐกิจและสังคม ทรงสนพระราชหฤทัยในการอนุรักษ์และฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมของชาติ เช่น โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ฟื้นฟูพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ทรงพัฒนาการศึกษา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดระบบการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อกระจายโอกาสให้การศึกษาแก่เยาวชนให้ทุกท้องถิ่น พระราชทานโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน และอื่นๆ อีกนานัปการ

พระราชกรณียกิจและพระราชจริยวัตรอันงดงาม เป็นที่ประจักษ์แซ่ซ้องไปทั่วสากล องค์การต่างๆ ได้เทิดพระเกียรติคุณ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลเป็นจำนวนมาก เช่น องค์การสหประชาชาติ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดในฐานะนักพัฒนามนุษย์ ล่าสุด องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัล Global Leader Award เป็นพระองค์แรก ในฐานะที่ทรงใช้ทรัพย์สินทางปัญญาในการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกร และพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน และสหพันธ์สมาคมนักประดิษฐ์ระหว่างประเทศ ได้มีมติให้วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสิทธิบัตรกังหันน้ำชัยพัฒนา ที่ทรงคิดค้นประดิษฐ์ขึ้นเพื่อบำบัดน้ำเสีย และขจัดปัญหาด้านสภาวะแวดล้อม เป็นวันนักประดิษฐ์โลก

อาณาประชาราษฎร์ล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ และต่างมีความจงรักภักดี จักถวายชีพเพื่อปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ให้ยั่งยืน มั่นคงตราบกาลนิรันดร์

เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ศกนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัยและสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล เดชะพระสยามเทวาธิราชและพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ โปรดอภิบาลประทานพรแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้ทรงพระเกษมสำราญ พระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ปราศจากโรคาพาธ อุปัทวันตราย หมู่ปัจจามิตรพ่ายพระบรมเดชานุภาพ ทรงสถิตเป็นร่มฉัตรปกเกล้าปกกระหม่อมพสกนิกรไทย เป็นหลักชัยอันมั่นคงของสยามประเทศ ตราบนิรันดร์กาล เทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ"

จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระดำรัสตอบ ความว่า

"วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าพเจ้า และสมเด็จพระเทพฯ ปฏิบัติหน้าที่แทนพระองค์ในการที่จะรับท่านทั้งหลายในวโรกาสที่เข้าถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ในปีนี้

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระราชกระแสให้ขอบใจในพรอันบริสุทธิ์ที่ได้ถวายมาด้วยความจงรักภักดี ทรงปลาบปลื้ม และทรงขอสนองพรทุกท่านที่ได้มีถวายมาอย่างจริงใจ ในการนี้ ได้ทรงขอให้บอกทุกท่าน และพระราชทานพรให้ทุกคนมีความสุข มีความเจริญ มีกำลังกาย กำลังใจ และกำลังปัญญา ที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อประเทศชาติและประชาชน ก็ขอให้ท่านมีความสุขความเจริญ และก็ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ดีงาม ทั้งในด้านส่วนรวมและส่วนตัว

ในโอกาสนี้ ที่ไม่เสด็จฯ ลง เพราะว่าทรงมีอาการประชวรเล็กน้อย ซึ่งก็ได้จะโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพฯ ซึ่งได้ขึ้นเฝ้าฯ ได้อธิบายให้ท่านฟังถึงอาการประชวรในเบื้องต้น

แต่สุดท้ายนี้ก็ ในพระปรมาภิไธยก็ขออัญเชิญพระราชกระแสขอบใจและสนองไมตรี สนองพรทุกท่านที่ได้มาถวายพระพรในวันนี้ ก็ขอให้ทุกท่านมีความสุข ความเจริญ สมปรารถนาทุกประการ"

จากนั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระดำรัส ความว่า

"เมื่อวานนี้ไปเฝ้าฯ ก็ยังไม่เป็นไร แล้วก็ไปร่วมตั้งเครื่องถวายพระกระยาหาร ก็ยังเสวยได้ดี แต่พอดีมาถึงวันนี้ ได้ทรงมีพระอาการเป็นช่องพระศอ คือทั้งหลอดลม หลอดอาหาร อักเสบ ทำให้เสวยเครื่องไม่ค่อยได้ เขาก็เลยถวายเป็นน้ำเกลือแล้วก็ยา ส่วนทางด้านหลอด เขาเรียกหลอดลมนะ เขามีเสมหะออกมามาก ก็ทำให้ท่านรู้สึกทรงไม่ทรงพระสำราญ แล้วก็ทำให้อ่อนเพลีย แต่ว่าไม่มีไข้ ก็คิดว่าจะให้บรรทมพักไปสักพักเท่าไรจนกระทั่งมีพระกำลัง ค่อยออกมาพบท่าน หรือทำอะไรได้ เพราะคิดว่าถ้าตอนนี้ คิดว่าอยากจะทรงพักดีกว่า แล้วก็เรื่องรายละเอียดจะเป็นยังไงนี่ เข้าใจว่าประเดี๋ยวทางแพทย์เขาคงพูดด้วยภาษาที่ถูกต้องอีกที แต่ว่านี่ก็ว่าเท่าที่เห็น คือ แต่ท่านก็ดูแล้วพระอาการไม่ได้หนักมาก แต่ว่าดูเหมือนจะอ่อนเพลียที่จะลุกเพราะว่าเสวยไม่ได้เต็มที่ แล้วก็เสมหะออก แล้วติดอยู่ คือมีเสมหะแต่ติดอยู่ ก็ไม่ค่อยจะออก แล้วก็ถวายน้ำเกลือเนี่ยเพื่อที่จะล้างให้ ถ้าได้น้ำไม่พอเนี่ย เหมือนเวลาเขาให้คนที่มีเสมหะเขาให้ดื่มน้ำมากๆ แต่ทีนี้ถ้าดื่มไม่ดีก็ถวายน้ำเกลือ ตอนนี้ดูจะออกลงมาก แต่ว่า เหมือนกับว่าถึงเวลาแล้ว ถึงเวลาที่จะให้เฝ้าฯ แล้ว ก็จะให้เสมหะออก แล้วก็ออกมาดี ก็ยังไม่ทัน ก็เลยโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมฯ มารับพรและขอบใจทุกๆ ท่านแทน"

วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยาม มกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จฯ กลับ
กำลังโหลดความคิดเห็น