นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวถึง สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดยะลาว่า จากการตรวจสอบพื้นที่พบว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาเกิดภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าแม่น้ำปัตตานีและแม่น้ำสายบุรีทั้ง 2 สาย มีปริมาณน้ำสูงขึ้น โดยปริมาณจากแม่น้ำสายบุรีได้ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่อำเภอรามันแล้ว จำนวน 6 ตำบลประกอบด้วย ตำบลอาซ่อง ตำบลเกะรอ ตำบลท่าธง ตำบลบาลอ ตำบลตะโละหะลอ และตำบลกายูบอเกาะ รวมถึงอำเภอเมือง ซึ่งขณะนี้พบว่ามีปริมาณเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ตำบลตาเซะ ตำบลยุโป เนื่องจากปริมาณจากแม่น้ำปัตตานีมีปริมาณสูงขึ้น ดังนั้นจังหวัดยะลาจึงได้ประกาศให้พื้นที่อำเภอรามัน และอำเภอเมืองยะลา เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วม โดยพบว่าทั้ง 2 อำเภอ มีปริมาณน้ำฝนท่วมขังเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน
ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้จังหวัดยะลาได้เตรียมความพร้อม เพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้ามาในเทศบาลนครยะลา โดยได้นำเครื่องสูบน้ำ จำนวน 8 เครื่อง ไปติดตามที่บริเวณปั้มน้ำและสูบน้ำออกนอกพื้นที่ นอกจากนี้ปัญหาที่ห่วงใยอยู่ขณะนี้คือ น้ำป่าไหลหลาก ซึ่งหากมีปริมาณฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่อำเภอกรงปินัง บันนังสตา ธารโต และเบตง อาจเกิดปัญหาน้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนราษฎร และปัญหาดินถล่มทับเส้นทาง โดยเฉพาะถนนสาย 410 ยะลา-เบตง อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ประสานงานกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา และสำนักงานทางหลวงชนบท นำเครื่องจักรกลเตรียมความพร้อม เพื่อให้การช่วยเหลือแล้ว
ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้จังหวัดยะลาได้เตรียมความพร้อม เพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้ามาในเทศบาลนครยะลา โดยได้นำเครื่องสูบน้ำ จำนวน 8 เครื่อง ไปติดตามที่บริเวณปั้มน้ำและสูบน้ำออกนอกพื้นที่ นอกจากนี้ปัญหาที่ห่วงใยอยู่ขณะนี้คือ น้ำป่าไหลหลาก ซึ่งหากมีปริมาณฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่อำเภอกรงปินัง บันนังสตา ธารโต และเบตง อาจเกิดปัญหาน้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนราษฎร และปัญหาดินถล่มทับเส้นทาง โดยเฉพาะถนนสาย 410 ยะลา-เบตง อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ประสานงานกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา และสำนักงานทางหลวงชนบท นำเครื่องจักรกลเตรียมความพร้อม เพื่อให้การช่วยเหลือแล้ว