ยะลา - ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ใน อ.ธารโต อ.เบตง เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม หลังฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง
กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ และเกิดภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ของ จ.ยะลา และ จังหวัดใกล้เคียง มาตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 25 พ.ย.51 ที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานี และ แม่น้ำสายบุรี มีระดับน้ำสูงขึ้น ส่วนพื้นที่ ที่ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด คือเขตพื้นที่ อ.เมืองยะลา อ.ยะหา อ.รามัน ประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ริมแม่น้ำ หรือในที่ลุ่ม ให้สังเกตระดับน้ำ และอพยพทันที เมื่อระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานี ยังคงอยู่ในระดับปกติ น้ำยังไม่ล้นตลิ่ง ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรี ซึ่งรับน้ำมาตั้งแต่ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ไหลผ่าน ต.ท่าธง ต.เกะรอ ต.อาซ่อง และ ต.กายูบอเกาะ ต.บาลอ ต.ตะโละหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา ขณะนี้ระดับน้ำยังคงที่อยู่
นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ขณะนี้ฝนได้ทิ้งช่วงและมีตกลงมาอย่างประปราย ทำให้น้ำในแม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านจังหวัดยะลา คือแม่น้ำปัตตานีและสายบุรี ระดับน้ำยังอยู่ในระดับปกติ ไม่น่าเป็นห่วง แต่ก็ได้ให้นายอำเภอพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง ตรวจสอบปริมาณน้ำในแม่น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเฝ้าสังเกตน้ำจากต้นทางว่ามีไหลลงมาจำนวนผิดปกติหรือไม่ และให้ประสานสั่งการไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตรวจสอบสภาพน้ำ และรายงานสภาพน้ำให้ทราบทุกวัน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างทันด่วน
ขณะเดียวกันได้สั่งการให้นายอำเภอเบตง และธารโต ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำป่าไหลหลาก ดินถล่มบ้านเรือน และปิดเส้นทางคมนาคม เป็นประจำทุกปี เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวกันให้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ติดตามสถานการณ์และรายงานให้ตนเองทราบเป็นระยะๆ ทุกวัน และเตรียมพร้อมเครื่องจักกลหนัก ให้มีความพร้อมที่จะเข้าไปยังจุดเกิดเหตุได้ทันทีหากเกิดปัญหา โดยเฉพาะดินถล่มปิดเส้นทางสาย 410 ยะลา – เบตง อาจทำให้มีปัญหาในเรื่องการลำเลียงสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค ตลอดจนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้าพื้นที่อำเภอเบตงเกิดการขาดแคลนได้
กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ และเกิดภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ของ จ.ยะลา และ จังหวัดใกล้เคียง มาตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 25 พ.ย.51 ที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานี และ แม่น้ำสายบุรี มีระดับน้ำสูงขึ้น ส่วนพื้นที่ ที่ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด คือเขตพื้นที่ อ.เมืองยะลา อ.ยะหา อ.รามัน ประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ริมแม่น้ำ หรือในที่ลุ่ม ให้สังเกตระดับน้ำ และอพยพทันที เมื่อระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานี ยังคงอยู่ในระดับปกติ น้ำยังไม่ล้นตลิ่ง ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรี ซึ่งรับน้ำมาตั้งแต่ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ไหลผ่าน ต.ท่าธง ต.เกะรอ ต.อาซ่อง และ ต.กายูบอเกาะ ต.บาลอ ต.ตะโละหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา ขณะนี้ระดับน้ำยังคงที่อยู่
นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ขณะนี้ฝนได้ทิ้งช่วงและมีตกลงมาอย่างประปราย ทำให้น้ำในแม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านจังหวัดยะลา คือแม่น้ำปัตตานีและสายบุรี ระดับน้ำยังอยู่ในระดับปกติ ไม่น่าเป็นห่วง แต่ก็ได้ให้นายอำเภอพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง ตรวจสอบปริมาณน้ำในแม่น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเฝ้าสังเกตน้ำจากต้นทางว่ามีไหลลงมาจำนวนผิดปกติหรือไม่ และให้ประสานสั่งการไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตรวจสอบสภาพน้ำ และรายงานสภาพน้ำให้ทราบทุกวัน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างทันด่วน
ขณะเดียวกันได้สั่งการให้นายอำเภอเบตง และธารโต ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำป่าไหลหลาก ดินถล่มบ้านเรือน และปิดเส้นทางคมนาคม เป็นประจำทุกปี เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวกันให้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ติดตามสถานการณ์และรายงานให้ตนเองทราบเป็นระยะๆ ทุกวัน และเตรียมพร้อมเครื่องจักกลหนัก ให้มีความพร้อมที่จะเข้าไปยังจุดเกิดเหตุได้ทันทีหากเกิดปัญหา โดยเฉพาะดินถล่มปิดเส้นทางสาย 410 ยะลา – เบตง อาจทำให้มีปัญหาในเรื่องการลำเลียงสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค ตลอดจนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้าพื้นที่อำเภอเบตงเกิดการขาดแคลนได้
