ยะลา - อุตุฯ เตือนภัยภาคใต้ฝนตกหนัก จังหวัดยะลายังคงมีฝนตกชุก ผู้ว่าฯ ยะลาสั่งการทุกอำเภอในพื้นที่เสี่ยงภัยพร้อมให้ความช่วยเหลือชาวบ้านทันที หากมีน้ำท่วมในพื้นที่
จากการที่กรมอุตุนิยมวิทยา ออกมาประกาศเตือนภัย ฝนตกหนักในภาคใต้ และคลื่นลมแรงในอ่าวไทยมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง ประกอบกับ มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคใต้ตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณของ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ตรัง และสตูล ให้ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และมีน้ำป่าไหลหลากได้
ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงจนถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2551 จึงขอให้ชาวเรือและ ชาวประมงระมัดระวังอันตราย ในการเดินเรือ โดยเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย
ส่วนในพื้นที่ของจังหวัดยะลายังคงมีฝนตกอยู่อย่างต่อเนื่อง หากในระยะนี้ยังมีฝนตกชุกอยู่ อาจจะส่งผลให้น้ำในแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี ที่ไหลผ่านในเขตพื้นที่ อ.เมือง และ อ.รามัน เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านได้ สำหรับพื้นที่ป่าเขา เช่น ในพื้นที่ของ อ.บันนังสตา อ.ธารโต และ อ.เบตง มีการแจ้งให้ประชาชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ระวังตัว เพราะอาจจะเกิดดินถล่มได้
นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า จังหวัดยะลาได้มีการเตรียมพร้อม ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม อันเนื่องมาจากสภาพอากาศฝนตกหนัก สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน โดยได้ให้อำเภอในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มอำเภอ 2551 ทำการประชาสัมพันธ์ชี้แจงให้กับประชาชน ตลอดจนให้เฝ้าติดตามการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาทางสถานีวิทยุอย่างใกล้ชิด
โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยที่มักจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่มเป็นประจำทุกปี พร้อมกับให้นายอำเภอ กำชับ กำกับดูแล ความพร้อมของท้องถิ่น ในการรับมือป้องกัน และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันด่วนต่อเหตุการณ์ เน้นไม่ให้มีการสูญเสีย
ส่วนปัญหาดินถล่มนั้นทางจังหวัดได้ให้ทางหลวงชนบท จังหวัดยะลา และแขวงการทาง นำเครื่องจักรกลเข้าเตรียมพร้อมในพื้นที่แล้ว สำหรับจังหวัดยะลานั้น พื้นที่เสี่ยงภัยที่มักเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ได้แก่ สองฝั่งแม่น้ำสายบุรี ของอำเภอรามัน และสองฝั่งแม่น้ำปัตตานี ตั้งแต่ อ.บันนังสตา กรงปินัง อ.เมืองยะลา และเทศบาลนครยะลา ส่วนดินถล่มนั้นมักจะเกิดบนเส้นทางสายยะลา-เบตง ตั้งแต่ อ.บันนังสตา ไปจนถึง อ.เบตง
ด้านโรงไฟฟ้าเขื่อนบางลาง ได้รายงานแจ้งสภาพน้ำและความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อนประจำวันที่ 21 พ.ย.51 ว่ามีระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ระดับ 101.27 เมตร ในขณะเขื่อนสามารถรองรับการเก็บน้ำได้ 115.00 เมตร สามารถรับน้ำได้อีก 13.73 เมตร ปัจจุบันระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำ คิดเป็น 55.76%
จากการที่กรมอุตุนิยมวิทยา ออกมาประกาศเตือนภัย ฝนตกหนักในภาคใต้ และคลื่นลมแรงในอ่าวไทยมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง ประกอบกับ มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคใต้ตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณของ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ตรัง และสตูล ให้ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และมีน้ำป่าไหลหลากได้
ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงจนถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2551 จึงขอให้ชาวเรือและ ชาวประมงระมัดระวังอันตราย ในการเดินเรือ โดยเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย
ส่วนในพื้นที่ของจังหวัดยะลายังคงมีฝนตกอยู่อย่างต่อเนื่อง หากในระยะนี้ยังมีฝนตกชุกอยู่ อาจจะส่งผลให้น้ำในแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี ที่ไหลผ่านในเขตพื้นที่ อ.เมือง และ อ.รามัน เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านได้ สำหรับพื้นที่ป่าเขา เช่น ในพื้นที่ของ อ.บันนังสตา อ.ธารโต และ อ.เบตง มีการแจ้งให้ประชาชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ระวังตัว เพราะอาจจะเกิดดินถล่มได้
นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า จังหวัดยะลาได้มีการเตรียมพร้อม ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม อันเนื่องมาจากสภาพอากาศฝนตกหนัก สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน โดยได้ให้อำเภอในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มอำเภอ 2551 ทำการประชาสัมพันธ์ชี้แจงให้กับประชาชน ตลอดจนให้เฝ้าติดตามการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาทางสถานีวิทยุอย่างใกล้ชิด
โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยที่มักจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่มเป็นประจำทุกปี พร้อมกับให้นายอำเภอ กำชับ กำกับดูแล ความพร้อมของท้องถิ่น ในการรับมือป้องกัน และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันด่วนต่อเหตุการณ์ เน้นไม่ให้มีการสูญเสีย
ส่วนปัญหาดินถล่มนั้นทางจังหวัดได้ให้ทางหลวงชนบท จังหวัดยะลา และแขวงการทาง นำเครื่องจักรกลเข้าเตรียมพร้อมในพื้นที่แล้ว สำหรับจังหวัดยะลานั้น พื้นที่เสี่ยงภัยที่มักเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ได้แก่ สองฝั่งแม่น้ำสายบุรี ของอำเภอรามัน และสองฝั่งแม่น้ำปัตตานี ตั้งแต่ อ.บันนังสตา กรงปินัง อ.เมืองยะลา และเทศบาลนครยะลา ส่วนดินถล่มนั้นมักจะเกิดบนเส้นทางสายยะลา-เบตง ตั้งแต่ อ.บันนังสตา ไปจนถึง อ.เบตง
ด้านโรงไฟฟ้าเขื่อนบางลาง ได้รายงานแจ้งสภาพน้ำและความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อนประจำวันที่ 21 พ.ย.51 ว่ามีระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ระดับ 101.27 เมตร ในขณะเขื่อนสามารถรองรับการเก็บน้ำได้ 115.00 เมตร สามารถรับน้ำได้อีก 13.73 เมตร ปัจจุบันระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำ คิดเป็น 55.76%
