นายนิพนธ์ สุรพงษ์รักเจริญ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ทางออกที่คณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วมเสนอให้รัฐบาลยุบสภา ถือว่าเป็นการแก้วิกฤตการเมืองครั้งนี้แล้ว ซึ่งหากรัฐบาลไม่ทำตาม ทหารอาจมีความชอบธรรมในการปฏิวัติ เพราะขณะนี้ไม่ใช่เฉพาะภาคเอกชน แต่ทั้งประเทศเดือดร้อนมาก ความเสียหายแต่ละวันมีไม่ต่ำกว่า 500-600 ล้านบาท โดยในระยะยาวนั้นยังประเมินค่าเสียหายไม่ได้ ซึ่งหากสถานการณ์ยังคงรุนแรงขึ้น ปี 2552 อาจได้เห็นตัวเลขอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยเหลือ 0 หรือติดลบ ตัวเลขการว่างงานสูงกว่า 1,000,000 คน
นายนิพนธ์ ยังกล่าวอีกว่า ธุรกิจภาคอุตสาหกรรม ต้องให้ความสำคัญต่อสภาพคล่อง กระแสเงินสดหมุนเวียน การเพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนค่าใช้จ่าย อีกทั้งพัฒนาทักษะแรงงาน เพื่อบรรเทาวิกฤตทั้งจากภายในและนอกประเทศ
นายนิพนธ์ ยังกล่าวอีกว่า ธุรกิจภาคอุตสาหกรรม ต้องให้ความสำคัญต่อสภาพคล่อง กระแสเงินสดหมุนเวียน การเพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนค่าใช้จ่าย อีกทั้งพัฒนาทักษะแรงงาน เพื่อบรรเทาวิกฤตทั้งจากภายในและนอกประเทศ