การจัดงานเสวนานโยบายสาธารณะเพื่อการปฏิรูปสังคม วันนี้ (17 พ.ย.) ที่มีองค์กรเอกชน นักวิชาการ เข้าร่วมจำนวนมาก ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งที่จัดเวทีเสวนานี้ขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลขาดเสถียรภาพ และไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน
โดยศาสตรจารย์สมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ อธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า เห็นว่า ขณะที่ภาคประชาสังคมออกมาต่อต้านรัฐบาล กองทัพควรยืนเคียงข้างประชาชนและเข้ามาแก้ไขปัญหา เพื่อยุติความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกส่วน และเห็นว่า สถานการณ์ที่เป็นอยู่ประชาชนไม่สามารถยืนอยู่ตรงกลางได้ และต้องมายืนอยู่บนความถูกต้องทางการเมืองและกระบวนการยุติธรรม
ขณะที่นายนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานการจัดงานเสวนาวันนี้ เห็นว่า การแก้ปัญหาด้วยการปฏิวัติ หรือรัฐประหาร ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในการแก้วิกฤตการเมืองที่เป็นอยู่ และต้องใช้เวลาในการเยียวยาหลังจากนั้น รวมทั้งเสนอว่า ภาคประชาสังคมและกองทัพ ควรวางบทบาทและป้องกันความรุนแรงที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ให้เกิดความรุนแรงน้อยที่สุด
ส่วน พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ คลังสมองวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร กล่าวถึงความผิดพลาดของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ในการออกพระราชบัญญัติความมั่นคง และพระราชบัญญัติกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ที่ให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นนักการเมือง ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างอิสระชอบธรรม และเห็นว่า ทุกฝ่ายควรร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาของประเทศ
โดยศาสตรจารย์สมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ อธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า เห็นว่า ขณะที่ภาคประชาสังคมออกมาต่อต้านรัฐบาล กองทัพควรยืนเคียงข้างประชาชนและเข้ามาแก้ไขปัญหา เพื่อยุติความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกส่วน และเห็นว่า สถานการณ์ที่เป็นอยู่ประชาชนไม่สามารถยืนอยู่ตรงกลางได้ และต้องมายืนอยู่บนความถูกต้องทางการเมืองและกระบวนการยุติธรรม
ขณะที่นายนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานการจัดงานเสวนาวันนี้ เห็นว่า การแก้ปัญหาด้วยการปฏิวัติ หรือรัฐประหาร ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในการแก้วิกฤตการเมืองที่เป็นอยู่ และต้องใช้เวลาในการเยียวยาหลังจากนั้น รวมทั้งเสนอว่า ภาคประชาสังคมและกองทัพ ควรวางบทบาทและป้องกันความรุนแรงที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ให้เกิดความรุนแรงน้อยที่สุด
ส่วน พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ คลังสมองวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร กล่าวถึงความผิดพลาดของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ในการออกพระราชบัญญัติความมั่นคง และพระราชบัญญัติกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ที่ให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นนักการเมือง ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างอิสระชอบธรรม และเห็นว่า ทุกฝ่ายควรร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาของประเทศ