หุ้นไทยเผชิญแรงเทขายต่อเนื่องจากผลพวงการเมือง

มีรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันที่ 24 พฤศจิกายน ยังคงเผชิญกับแรงเทขายอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน เพราะได้รับผลพวงจากปัญหาเศรษฐกิจโลกถดถอย รวมทั้งปัญหาการเมืองในประเทศที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยใช้กลยุทธ์ดาวกระจายปิดล้อมหน่วยงานต่างๆ ทำให้นักลงทุนชะลอลงทุน เพื่อดูสถานการณ์ โดยระหว่างวันดัชนีขึ้นสูงสุดที่ 396.82 จุด และลดลงต่ำสุดที่ 384.92 จุด จนมาปิดตลาดที่ 386.12 จุด ลดลง 11.39 จุด หรือร้อยละ 2.87 ด้วยมูลค่าซื้อขายเบาบาง 6,727.04 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ปิดที่ 152.63 จุด ลดลง 2.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37.40 ล้านบาท
โดยนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,113.07 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิที่ 295.47 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 817.60 ล้านบาท
นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ มองว่า ตลาดหุ้นไทยปรับฐานลดลง ซึ่งมาจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก เนื่องจากภาคการผลิตมีปัญหา โดยเฉพาะธุรกิจรถยนต์ในสหรัฐฯ ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ทำให้ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อมั่นและเทขายหุ้นไทยเฉลี่ยวันละ 1,000 ล้านบาท ประกอบกับเกิดแรงกดดันด้านการเมืองในประเทศที่ใช้กลยุทธ์ดาวกระจาย ก็ยิ่งทำให้เกิดแรงเทขายในระยะสั้นออกมาอีก
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ (25 พ.ย.) เชื่อว่า ยังคงได้รับแรงกดดันจากการเมืองในประเทศ ซึ่งต้องรอติดตามสถานการณ์ต่างๆ ว่าจะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นตามมาหรือไม่ นอกจากนี้ ต้องจับตาแรงขายในช่วงปลายปีว่าจะมีออกมาอย่างต่อเนื่องหรือไม่ โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 373 จุด และแนวต้านที่ระดับ 395 จุด