“ข้าวกล้า” เตรียมออกกองทุนใหม่มูลค่า 500 ล้านบาท เปิดทางให้นิติบุคคลและสถาบันการเงินลงทุนเข้าลงทุน พร้อมกับเทเม็ดเงิน 8.80 ล้านบาท ในบริษัทมาสเตอร์คูล คาดผลตอบแทนอยู่ที่ตัวเลขสองหลัก ด้าน “นพชัย” ชี้นำเงินที่ได้ต่อขยายกำลังผลิตสินค้าใหม่ ส่วนปี 54 เล็งเข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ
นางสาวปฐมาพร ไชยกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการเงินร่วมลงทุน (บลท.) ข้าวกล้า จำกัด ในฐานผู้บริหารจัดการเงินร่วมลงทุนบริษัทร่วมลงทุน เค-เอสเอ็มอี (K-SME Venture Capital) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนจะออกกองทุนใหม่อีก 1 กอง มูลค่า 500 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 3/52 ซึ่งจะเปิดเสนอให้แก่นิติบุคคลและสถาบันการเงินสามารถร่วมลงทุนได้
โดยปัจจุบันเรามีกองทุน K-SME Venture Capital อยู่แล้ว 1 กอง และลงทุนไปแล้ว 8 บริษัท ซึ่งถ้าหากรวมกับการลงทุนเงินลงทุนที่ใส่เข้าไปในบริษัท มาสเตอร์คูล จำกัด อีกจำนวน 8.80 ล้านบาท ก็จะกลายเป็น 9 บริษัท และคาดว่าผลตอบแทนน่าจะออกมาเป็นตัวเลขสองหลัก เนื่องจากมองว่าบริษัทดังกล่าวมีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการลงนามร่วมลงทุนในบริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ด้วยเม็ดเงินจำนวน 8.80 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 9.91% ของทุนจดทะเบียน จากเดิมที่เคยตั้งไว้ว่าจะเข้าร่วมลงทุนเป็นจำนวน 20 ล้านบาท เนื่องจากติดกฏเกณฑ์บางประการของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้ไม่สามารถลงทุนได้ตามแผนเดิมที่วางไว้
นายนพชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียนใหม่ 44.40 ล้านบาท มีมูลค่าที่ตราไว้ 10 บาทต่อหุ้น โดยมาจากทุนจดทะเบียนเดิม 20 ล้านบาท เพิ่มทุนใหม่จากผู้ถือหุ้นเดิมอีก 20 ล้านบาท และทืเหลือเงินลงทุนจากบลท.ข้าวกล้า
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทฯ เตรียมจะนำเงินที่ได้ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาดในเดือนสิงหาคมปีนี้ ซึ่งถ้าหากผลิตภัณฑ์ใหม่ได้รับความสนใจลูกค้าก็อาจมีการขอวงเงินเพิ่มเติมจากทางบลท.ข้าวกล้า ที่กำหนดไว้จากแผนเดิม นอกจากนี้ ในปี 2554 บริษัทมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) เพื่อนำเงินมาขยายกำลังผลิตต่อไป
นางสาวปฐมาพร ไชยกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการเงินร่วมลงทุน (บลท.) ข้าวกล้า จำกัด ในฐานผู้บริหารจัดการเงินร่วมลงทุนบริษัทร่วมลงทุน เค-เอสเอ็มอี (K-SME Venture Capital) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนจะออกกองทุนใหม่อีก 1 กอง มูลค่า 500 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 3/52 ซึ่งจะเปิดเสนอให้แก่นิติบุคคลและสถาบันการเงินสามารถร่วมลงทุนได้
โดยปัจจุบันเรามีกองทุน K-SME Venture Capital อยู่แล้ว 1 กอง และลงทุนไปแล้ว 8 บริษัท ซึ่งถ้าหากรวมกับการลงทุนเงินลงทุนที่ใส่เข้าไปในบริษัท มาสเตอร์คูล จำกัด อีกจำนวน 8.80 ล้านบาท ก็จะกลายเป็น 9 บริษัท และคาดว่าผลตอบแทนน่าจะออกมาเป็นตัวเลขสองหลัก เนื่องจากมองว่าบริษัทดังกล่าวมีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการลงนามร่วมลงทุนในบริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ด้วยเม็ดเงินจำนวน 8.80 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 9.91% ของทุนจดทะเบียน จากเดิมที่เคยตั้งไว้ว่าจะเข้าร่วมลงทุนเป็นจำนวน 20 ล้านบาท เนื่องจากติดกฏเกณฑ์บางประการของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้ไม่สามารถลงทุนได้ตามแผนเดิมที่วางไว้
นายนพชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียนใหม่ 44.40 ล้านบาท มีมูลค่าที่ตราไว้ 10 บาทต่อหุ้น โดยมาจากทุนจดทะเบียนเดิม 20 ล้านบาท เพิ่มทุนใหม่จากผู้ถือหุ้นเดิมอีก 20 ล้านบาท และทืเหลือเงินลงทุนจากบลท.ข้าวกล้า
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทฯ เตรียมจะนำเงินที่ได้ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาดในเดือนสิงหาคมปีนี้ ซึ่งถ้าหากผลิตภัณฑ์ใหม่ได้รับความสนใจลูกค้าก็อาจมีการขอวงเงินเพิ่มเติมจากทางบลท.ข้าวกล้า ที่กำหนดไว้จากแผนเดิม นอกจากนี้ ในปี 2554 บริษัทมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) เพื่อนำเงินมาขยายกำลังผลิตต่อไป