สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนใน 18 จังหวัด ครอบคลุมทั่วประเทศ จำนวน 5,416 คน เกี่ยวกับผลกระทบทางการเมืองต่ออารมณ์ความรู้สึกของสาธารณชน ภายหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินเข้ารายการความจริงวันนี้สัญจร เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า แนวโน้มค่าเฉลี่ยคะแนนความสง่างามและความชอบธรรมของรัฐบาลชุดปัจจุบันลดลง เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน จาก 4.31 ในผลสำรวจวันที่ 18 ตุลาคม ลดลงเหลือ 3.97 ในการสำรวจล่าสุด
ผลการสำรวจยังพบว่า ความเครียดของประชาชนต่อเรื่องการเมืองยังคงสูงเหมือนเดิม คือ 5.89 ในครั้งก่อน ยังคงอยู่ที่ 5.88 ในการสำรวจล่าสุด อย่างไรก็ตาม แนวโน้มความอยากได้รัฐบาลแห่งชาติและแนวคิดการเมืองใหม่ การเมืองภาคประชาชน เพิ่มขึ้นจาก 5.08 มาอยู่ที่ 6.02 และ 5.42 มาอยู่ที่ 5.58 ตามลำดับ
ส่วนผลกระทบที่ตามมาจากการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ พบว่าคนที่นิยมศรัทธาต่ออดีตนายกรัฐมนตรีเพิ่มขึ้นเพียงประมาณร้อยละ 5 ถึงร้อยละ 10 เท่านั้น ขณะเดียวกัน พบว่า กว่าร้อยละ 30 กลับยิ่งทำให้ไม่นิยมศรัทธาในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เลย
นอกจากนี้ ยังพบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 66.7 คิดว่าการโฟนอินของอดีตนายกรัฐมนตรี กลับจะทำให้สถานการณ์การเมืองแย่ลง
ผลการสำรวจยังพบว่า การโฟนอินดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อความนิยมฐานสนับสนุนของประชาชนต่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ที่เคยได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในช่วงปลายเดือนตุลาคม อยู่ที่ร้อยละ 56.3 หรืออยู่ในแดน B- แต่ผลสำรวจล่าสุด พบว่าฐานสนับสนุนของสาธารณชนต่อตัวนายกรัฐมนตรีลดลง 7 จุด มาอยู่ที่ร้อยละ 49.0 ซึ่งอยู่ในแดน C
ผลการสำรวจยังพบว่า ความเครียดของประชาชนต่อเรื่องการเมืองยังคงสูงเหมือนเดิม คือ 5.89 ในครั้งก่อน ยังคงอยู่ที่ 5.88 ในการสำรวจล่าสุด อย่างไรก็ตาม แนวโน้มความอยากได้รัฐบาลแห่งชาติและแนวคิดการเมืองใหม่ การเมืองภาคประชาชน เพิ่มขึ้นจาก 5.08 มาอยู่ที่ 6.02 และ 5.42 มาอยู่ที่ 5.58 ตามลำดับ
ส่วนผลกระทบที่ตามมาจากการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ พบว่าคนที่นิยมศรัทธาต่ออดีตนายกรัฐมนตรีเพิ่มขึ้นเพียงประมาณร้อยละ 5 ถึงร้อยละ 10 เท่านั้น ขณะเดียวกัน พบว่า กว่าร้อยละ 30 กลับยิ่งทำให้ไม่นิยมศรัทธาในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เลย
นอกจากนี้ ยังพบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 66.7 คิดว่าการโฟนอินของอดีตนายกรัฐมนตรี กลับจะทำให้สถานการณ์การเมืองแย่ลง
ผลการสำรวจยังพบว่า การโฟนอินดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อความนิยมฐานสนับสนุนของประชาชนต่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ที่เคยได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในช่วงปลายเดือนตุลาคม อยู่ที่ร้อยละ 56.3 หรืออยู่ในแดน B- แต่ผลสำรวจล่าสุด พบว่าฐานสนับสนุนของสาธารณชนต่อตัวนายกรัฐมนตรีลดลง 7 จุด มาอยู่ที่ร้อยละ 49.0 ซึ่งอยู่ในแดน C