บารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐฯ คว้าชัยชนะในรัฐนอร์ทแคโรไลนาได้สำเร็จ และกลายเป็นผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตคนแรกที่ได้รับชัยชนะในรัฐดังกล่าวตั้งแต่ปี 1976
ชัยชนะของโอบามาเหนือจอห์น แมคเคน ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ทำให้เขามีคะแนนผู้เลือกตั้ง หรืออิเลกทอรัลโหวตเพิ่มอีก 15 เสียง รวมทั้งสิ้น 364 เสียง ซึ่งผู้ที่จะได้ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องมีคะแนนอิเลกทอรัลโหวต 270 เสียงขึ้นไป
เรียลเคลียร์โพลิติกส์ ดอท คอม รายงานว่า โอบามาเฉือนชนะแมคเคนในรัฐนอร์ทแคโรไลนาไปเพียง 0.5 เปอร์เซ็นต์ โดยโอบามาได้คะแนนเสียงเลือกตั้งจากชาวอเมริกัน หรือป๊อปปูลาร์โหวตทั้งสิ้น 2,123,395 เสียง ขณะที่แมคเคนได้ 2,109,402 เสียง
ส่วนรัฐที่ยังไม่มีการประกาศผลเพียงรัฐเดียวในขณะนี้ก็คือ รัฐมิสซูรี ซึ่งสองผู้สมัครมีคะแนนสูสีห่างกันเพียงไม่กี่พันคะแนน โดยแมคเคนเป็นผู้มีคะแนนนำเหนือโอบามาเล็กน้อย ซึ่งหากเขาสามารถเอาชนะโอบามาในรัฐนี้ได้ ก็จะได้คะแนนอิเลกทอรัลโหวตทั้ง 11 เสียงไปครอง และจะทำให้คะแนนอิเลกทอรัลโหวตของเขาเพิ่มเป็น 174 เสียง
ทั้งนี้ในปี 2004 ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เอาชนะคู่แข่งจากพรรคเดโมแครตอย่าง จอห์น แคร์รีในรัฐนอร์ทแคโรไลนาไปได้ด้วยคะแนน 56 ต่อ 44 เปอร์เซ็นต์
ชัยชนะของโอบามาเหนือจอห์น แมคเคน ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ทำให้เขามีคะแนนผู้เลือกตั้ง หรืออิเลกทอรัลโหวตเพิ่มอีก 15 เสียง รวมทั้งสิ้น 364 เสียง ซึ่งผู้ที่จะได้ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องมีคะแนนอิเลกทอรัลโหวต 270 เสียงขึ้นไป
เรียลเคลียร์โพลิติกส์ ดอท คอม รายงานว่า โอบามาเฉือนชนะแมคเคนในรัฐนอร์ทแคโรไลนาไปเพียง 0.5 เปอร์เซ็นต์ โดยโอบามาได้คะแนนเสียงเลือกตั้งจากชาวอเมริกัน หรือป๊อปปูลาร์โหวตทั้งสิ้น 2,123,395 เสียง ขณะที่แมคเคนได้ 2,109,402 เสียง
ส่วนรัฐที่ยังไม่มีการประกาศผลเพียงรัฐเดียวในขณะนี้ก็คือ รัฐมิสซูรี ซึ่งสองผู้สมัครมีคะแนนสูสีห่างกันเพียงไม่กี่พันคะแนน โดยแมคเคนเป็นผู้มีคะแนนนำเหนือโอบามาเล็กน้อย ซึ่งหากเขาสามารถเอาชนะโอบามาในรัฐนี้ได้ ก็จะได้คะแนนอิเลกทอรัลโหวตทั้ง 11 เสียงไปครอง และจะทำให้คะแนนอิเลกทอรัลโหวตของเขาเพิ่มเป็น 174 เสียง
ทั้งนี้ในปี 2004 ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เอาชนะคู่แข่งจากพรรคเดโมแครตอย่าง จอห์น แคร์รีในรัฐนอร์ทแคโรไลนาไปได้ด้วยคะแนน 56 ต่อ 44 เปอร์เซ็นต์