นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยใน 33 จังหวัดทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จากภาวะฝนตกหนัก เมื่อวันที่ 25-27 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ จ.ตาก กำแพงเพชร อุทัยธานี กาญจนบุรี เชียงใหม่ และราชบุรี ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้สั่งการกำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัย ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ออกสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน รวมทั้งแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
จากการติดตามสภาพอากาศพบว่า ในระยะนี้จะมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ และภาคกลางฝั่งตะวันตก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสานให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 สุพรรณบุรี เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา เขต 17 จันทบุรี เขต 18 ภูเก็ต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เตรียมการป้องกันปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ให้พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดเหตุภัยพิบัติ ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมการป้องกันอันตรายจากภาวะฝนตกหนักในระยะนี้ ทั้งน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้สั่งการกำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัย ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ออกสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน รวมทั้งแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
จากการติดตามสภาพอากาศพบว่า ในระยะนี้จะมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ และภาคกลางฝั่งตะวันตก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสานให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 สุพรรณบุรี เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา เขต 17 จันทบุรี เขต 18 ภูเก็ต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เตรียมการป้องกันปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ให้พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดเหตุภัยพิบัติ ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมการป้องกันอันตรายจากภาวะฝนตกหนักในระยะนี้ ทั้งน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
