เงินรูเปียของอินโดนีเซีย อ่อนค่าลงร้อยละ 9 ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 7 ปีครึ่ง ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบ 3 ปี โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเทขายพันธบัตรรัฐบาล ด้วยเกิดความไม่มั่นใจในรัฐบาลอินโดนีเซียว่าจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตการเงินโลกได้
ขณะที่ธนาคารชาติอินโดนีเซียเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าสู่ตลาด เพื่อหวังชะลอไม่ให้ค่าเงินรูเปียอ่อนค่าลง แต่ไม่สามารถหยุดยั้งค่าเงินที่อ่อนลงไปถึงระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2544 ได้ โดยอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 11,850 รูเปียต่อดอลลาร์สหรัฐฯและปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 11,000 รูเปียต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเวลา 13.15 น. ของวันนี้ ตามเวลาประเทศไทย
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จำนวนมากระบุว่า สาเหตุที่ทำให้อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในชาติต้นๆ ของเอเชียที่กำลังเผชิญกับภาวะเสี่ยงด้านวิกฤตสินเชื่อมากที่สุดคือ การขยายตัวของสินเชื่ออย่างรวดเร็ว สัดส่วนหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น ยอดการค้าและการคลังที่ย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม แม้เงินรูเปียจะอ่อนค่าลง แต่ธนาคารชาติอินโดนีเซียไม่มีความคิดที่จะใช้มาตรการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อแก้ปัญหา ดังเช่นที่ธนาคารชาติเกาหลีใต้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานในคราวเดียวถึงร้อยละ 0.75 เมื่อวานนี้
ขณะที่ธนาคารชาติอินโดนีเซียเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าสู่ตลาด เพื่อหวังชะลอไม่ให้ค่าเงินรูเปียอ่อนค่าลง แต่ไม่สามารถหยุดยั้งค่าเงินที่อ่อนลงไปถึงระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2544 ได้ โดยอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 11,850 รูเปียต่อดอลลาร์สหรัฐฯและปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 11,000 รูเปียต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเวลา 13.15 น. ของวันนี้ ตามเวลาประเทศไทย
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จำนวนมากระบุว่า สาเหตุที่ทำให้อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในชาติต้นๆ ของเอเชียที่กำลังเผชิญกับภาวะเสี่ยงด้านวิกฤตสินเชื่อมากที่สุดคือ การขยายตัวของสินเชื่ออย่างรวดเร็ว สัดส่วนหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น ยอดการค้าและการคลังที่ย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม แม้เงินรูเปียจะอ่อนค่าลง แต่ธนาคารชาติอินโดนีเซียไม่มีความคิดที่จะใช้มาตรการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อแก้ปัญหา ดังเช่นที่ธนาคารชาติเกาหลีใต้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานในคราวเดียวถึงร้อยละ 0.75 เมื่อวานนี้