วันนี้ (27 ต.ค.) กองทัพบกได้ออกหนังสือชี้แจงถึงกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่โฆษกรัฐบาลของกัมพูชาได้ออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า จากการปะทะกันตามแนวชายแดนบริเวณผามออีแดงและภูมะเขือ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นผลให้บันไดนาคบริเวณทางขึ้นปราสาทพระวิหารได้รับความเสียหาย ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลของหน่วยรับผิดชอบในพื้นที่ ยืนยันฝ่ายไทยไม่เคยมีการยิงอาวุธหนักเข้าไปในบริเวณปราสาทพระวิหารหรือบริเวณใกล้เคียง แม้ว่าจะมีการนำกำลังทหารกัมพูชากว่า 100 นาย และมีการตั้งอาวุธยิงอยู่ในบริเวณติดกำแพงของปราสาทพระวิหารก็ตาม ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นกับปราสาทพระวิหารตามที่กัมพูชากล่าวอ้าง อาจเกิดจากการยิงอาวุธหนักของกัมพูชาเอง
อย่างไรก็ตาม หากกัมพูชาเห็นว่าปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกซึ่งมีความสำคัญกับกัมพูชา ก็ไม่ควรนำยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะปืนไร้แสงสะท้อนถอยหลังและเครื่องยิงลูกระเบิดซึ่งเป็นอาวุธหนัก ตลอดจนส่วนควบคุมบังคับบัญชาทางยุทธวิธีไปตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่อนุรักษ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันนี้ ผู้บัญชาการทหารบกของกัมพูชา จะเข้าพบกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกของไทย ณ บ้านพักเกษะโกมล โดยคาดว่าการพบกันครั้งนี้ จะเป็นการหารือถึงสถานการณ์ปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา
อย่างไรก็ตาม หากกัมพูชาเห็นว่าปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกซึ่งมีความสำคัญกับกัมพูชา ก็ไม่ควรนำยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะปืนไร้แสงสะท้อนถอยหลังและเครื่องยิงลูกระเบิดซึ่งเป็นอาวุธหนัก ตลอดจนส่วนควบคุมบังคับบัญชาทางยุทธวิธีไปตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่อนุรักษ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันนี้ ผู้บัญชาการทหารบกของกัมพูชา จะเข้าพบกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกของไทย ณ บ้านพักเกษะโกมล โดยคาดว่าการพบกันครั้งนี้ จะเป็นการหารือถึงสถานการณ์ปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา
