นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา กล่าวถึงท่าทีของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ลดความแข็งกร้าวต่อการแก้ปัญหาพื้นที่พิพาทบนเขาพระวิหาร และสนับสนุนแนวทางเจรจา 2 ฝ่ายว่า มีสาเหตุจากความเห็นของประชาคมโลกที่เห็นว่าการเจรจาทวิภาคีจะช่วยคลายปัญหานี้ได้
นายกษิต เห็นว่า ปัญหาเร่งด่วนที่ควรได้มีการดำเนินการร่วมกันก็คือ การปักปันเขตแดน เพื่อหาแนวเขตแดนที่ชัดเจนระหว่างพื้นที่พิพาท ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ในการทำงานร่วมกัน และเห็นควรว่า ควรได้มีการทบทวนเพื่อให้มีการขึ้นทะเบียนมรดกโลก ปราสาทเขาพระวิหารร่วมกัน
ขณะที่ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา และอดีตเสนาธิการทหาร กล่าวว่า ท่าทีที่เปลี่ยนไปของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ได้ย้ำให้ทหารทั้ง 2 ฝ่าย ใช้ความอดทนไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น จะช่วยให้สถานการณ์ชายแดนลดความตึงเครียด ลดการเผชิญหน้าด้านการทหารลง
พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวถึงกรอบการเจรจาชั่วคราวของไทย-กัมพูชา ที่จะถูกหยิกยกขึ้นหารือระหว่างการประชุมรัฐสภาวันอังคารนี้ ว่าคงได้มีการแสดงความเห็นที่หลากหลาย จากสมาชิกของทั้ง 2 สภา และเชื่อว่าจะไม่มีปัญหา ในการรับฟังความเห็นชอบจากรัฐสภา เนื่องจากกรอบการเจรจาได้กำหนดแนวทางการทำงาน ให้กับคณะกรรมการทำงาน ในการเจรจากับฝั่งกัมพูชา เรื่องสำคัญในเรื่องกรอบการเจรจาคือ การปรับกำลังทหารของทั้ง 2 ฝ่าย บริเวณพื้นที่พิพาท 2,500 ไร่ บนเขาพระวิหาร รวมถึงกำหนดให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ได้เริ่มทำหน้าที่ในการกำหนดพื้นที่ เพื่อให้มีการปักปันเขตแดน และให้มีการจัดตั้งชุดประสานงานด้านการทหาร เพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่
นายกษิต เห็นว่า ปัญหาเร่งด่วนที่ควรได้มีการดำเนินการร่วมกันก็คือ การปักปันเขตแดน เพื่อหาแนวเขตแดนที่ชัดเจนระหว่างพื้นที่พิพาท ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ในการทำงานร่วมกัน และเห็นควรว่า ควรได้มีการทบทวนเพื่อให้มีการขึ้นทะเบียนมรดกโลก ปราสาทเขาพระวิหารร่วมกัน
ขณะที่ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา และอดีตเสนาธิการทหาร กล่าวว่า ท่าทีที่เปลี่ยนไปของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ได้ย้ำให้ทหารทั้ง 2 ฝ่าย ใช้ความอดทนไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น จะช่วยให้สถานการณ์ชายแดนลดความตึงเครียด ลดการเผชิญหน้าด้านการทหารลง
พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวถึงกรอบการเจรจาชั่วคราวของไทย-กัมพูชา ที่จะถูกหยิกยกขึ้นหารือระหว่างการประชุมรัฐสภาวันอังคารนี้ ว่าคงได้มีการแสดงความเห็นที่หลากหลาย จากสมาชิกของทั้ง 2 สภา และเชื่อว่าจะไม่มีปัญหา ในการรับฟังความเห็นชอบจากรัฐสภา เนื่องจากกรอบการเจรจาได้กำหนดแนวทางการทำงาน ให้กับคณะกรรมการทำงาน ในการเจรจากับฝั่งกัมพูชา เรื่องสำคัญในเรื่องกรอบการเจรจาคือ การปรับกำลังทหารของทั้ง 2 ฝ่าย บริเวณพื้นที่พิพาท 2,500 ไร่ บนเขาพระวิหาร รวมถึงกำหนดให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ได้เริ่มทำหน้าที่ในการกำหนดพื้นที่ เพื่อให้มีการปักปันเขตแดน และให้มีการจัดตั้งชุดประสานงานด้านการทหาร เพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่