นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ (ครปอ.) เปิดเผยหลังหารือถึงการเคลื่อนไหวต่อต้าน การเข้ายื่นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยสรุปว่า วันจันทร์นี้จะมีตัวแทน 200 คน เดินทางไปยังตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเรียกร้องไม่ให้รับพิจารณา การยื่นคำขอจดทะเบียนสามัญของเบียร์ช้าง เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม รวมทั้งจะเข้าพบ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะที่กำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์โดยตรง และจะยื่นคัดค้านต่อ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) อีกด้วย ที่ประชุมเห็นว่า หากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) สามารถจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ได้ จะเป็นการสนับสนุนให้เป็นการซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะรับภาษีจากธุรกิจปีหนึ่งประมาณ 70,000 ล้านบาท แต่มูลค่าความเสียหายจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นสูงถึง 1.3 แสนล้านบาท เช่น การรักษาพยาบาล อุบัติเหตุ และการเสียชีวิต
ส่วนจุดประสงค์ที่บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ต้องการจดทะเบียนเพื่อขยายการลงทุน ทางเครือข่ายเห็นว่า เป็นการฉกฉวยโอกาสในช่วงที่เศรษฐกิจ และสังคมอ่อนแอ
ส่วนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า กรณีที่บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นการเสนอขายหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิม จึงมีการยื่นแบบรายการแสดงข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ มีการเปิดเผยข้อมูลตามประกาศที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดเอาไว้ก็จะทำให้แบบแสดงรายการข้อมูลมีผลบังคับใช้ และผู้ถือหุ้นเดิมสามารถเสนอขายหลักทรัพย์กับประชาชนทั่วไปได้ โดยทางตลาดหลักทรัพย์จะพิจารณารับหลักทรัพย์ดังกล่าว เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อ-ขาย เปลี่ยนมือหลักทรัพย์ของบริษัทได้
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ยืนยัน สนับสนุนการจำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท โดยขอให้มีการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น จากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างจริงจัง
ส่วนจุดประสงค์ที่บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ต้องการจดทะเบียนเพื่อขยายการลงทุน ทางเครือข่ายเห็นว่า เป็นการฉกฉวยโอกาสในช่วงที่เศรษฐกิจ และสังคมอ่อนแอ
ส่วนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า กรณีที่บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นการเสนอขายหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิม จึงมีการยื่นแบบรายการแสดงข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ มีการเปิดเผยข้อมูลตามประกาศที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดเอาไว้ก็จะทำให้แบบแสดงรายการข้อมูลมีผลบังคับใช้ และผู้ถือหุ้นเดิมสามารถเสนอขายหลักทรัพย์กับประชาชนทั่วไปได้ โดยทางตลาดหลักทรัพย์จะพิจารณารับหลักทรัพย์ดังกล่าว เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อ-ขาย เปลี่ยนมือหลักทรัพย์ของบริษัทได้
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ยืนยัน สนับสนุนการจำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท โดยขอให้มีการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น จากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างจริงจัง