นายโยฮัน เบนนิกกี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน จาก JBC ENERGY กล่าวถึงทิศทางพลังงาน ปี 2552 ว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกขึ้นอยู่กับต้นทุนการผลิตน้ำมันเป็นหลัก ซึ่งเชื่อว่าต้นทุนการผลิตจะไม่ต่ำกว่า 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ดังนั้น จึงคาดว่าราคาน้ำมันน่าจะอยู่ประมาณ 80-100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพราะหากราคาน้ำมันต่ำกว่าต้นทุน ประเทศผู้ผลิตน้ำมันก็จะหยุดการผลิต เ นื่องจากขาดทุน และเชื่อว่าเมื่อราคาน้ำมันลดลง ปริมาณการใช้ก็จะเพิ่มขึ้น
นายโยฮัน กล่าวว่า วันนี้จะต้องติดตามผลการประชุมโอเปก ซึ่งเชื่อว่าจะมีการลดกำลังการผลิตเพื่อกระตุ้นให้ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น โดยโอเปกตั้งเป้าที่จะลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในปีนี้ ซึ่งหากโอเปกตัดสินใจลดกำลังการผลิตทันทีวันนี้ จะทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกดีดกลับไปอยู่ที่ 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล แต่เชื่อว่าโอเปกจะไม่ตัดสินใจลักษณะนั้น แต่น่าจะทยอยลดกำลังการผลิตในการประชุมครั้งนี้ และปลายปีนี้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าราคาน้ำมันในอนาคตมีโอกาสที่จะปรับเพิ่มขึ้นอีก เพราะประเทศนอกกลุ่มโอเปกก็ไม่สามารถผลิตน้ำมันทดแทนกลุ่มโอเปกได้ ขณะที่บริษัทน้ำมันแห่งชาติหลายแห่งก็เผชิญปัญหาและอุปสรรคในการขุดเจาะแหล่งผลิตใหม่ ๆ เพราะแหล่งผลิตที่มีน้ำมันอยู่ในมือรัฐบาลประเทศนั้น ที่ไม่ค่อยเปิดกว้างให้เอกชนเข้าไปขุดเจาะสำรวจ
นายโยฮัน กล่าวว่า วันนี้จะต้องติดตามผลการประชุมโอเปก ซึ่งเชื่อว่าจะมีการลดกำลังการผลิตเพื่อกระตุ้นให้ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น โดยโอเปกตั้งเป้าที่จะลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในปีนี้ ซึ่งหากโอเปกตัดสินใจลดกำลังการผลิตทันทีวันนี้ จะทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกดีดกลับไปอยู่ที่ 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล แต่เชื่อว่าโอเปกจะไม่ตัดสินใจลักษณะนั้น แต่น่าจะทยอยลดกำลังการผลิตในการประชุมครั้งนี้ และปลายปีนี้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าราคาน้ำมันในอนาคตมีโอกาสที่จะปรับเพิ่มขึ้นอีก เพราะประเทศนอกกลุ่มโอเปกก็ไม่สามารถผลิตน้ำมันทดแทนกลุ่มโอเปกได้ ขณะที่บริษัทน้ำมันแห่งชาติหลายแห่งก็เผชิญปัญหาและอุปสรรคในการขุดเจาะแหล่งผลิตใหม่ ๆ เพราะแหล่งผลิตที่มีน้ำมันอยู่ในมือรัฐบาลประเทศนั้น ที่ไม่ค่อยเปิดกว้างให้เอกชนเข้าไปขุดเจาะสำรวจ