เอเจนซี – ประธานาธิบดี ซูซิลโอ บัมบัง ยุดโฮโยโน ของอินโดนีเซียแถลงวันนี้ (6) กำลังพิจารณาออกจากการเป็นสมาชิกขององค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปก เนื่องจากผลผลิตน้ำมันดิบของประเทศลดลง
อินโดนีเซียเป็นประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิกเพียงประเทศเดียว ที่เป็นสมาชิกของกลุ่มโอเปก ทว่า ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ น้ำมันดิบของอินโดนีเซียมีจำนวนลดลง เนื่องจากบ่อน้ำมันเก่าแก่ไปตามสภาพ และขาดแคลนการลงทุน
“เรากำลังพิจารณาว่าเราจะอยู่ในกลุ่มโอเปกต่อไป หรือออกจากกลุ่ม ขณะนี้ เราเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบ และผลผลิตของเราก็ลดลงต่ำกว่า 1 ล้านบาร์เรล” ยุดโฮโยโน กล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยอ้างอิงตัวเลขผลผลิตประจำวันของประเทศ
ความคิดที่สมาชิกในเอเชียเพียงประเทศเดียวของโอเปกจะออกจากกลุ่มนั้นเริ่มมีมาราว 2-3 ปีมาแล้ว โดยเมื่อปี 2005 กลุ่มที่ปรึกษาของรัฐบาลแนะว่า อินโดนีเซียควรออกจากกลุ่ม เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางการเงินในการเป็นสมาชิกภาพ
นอกจากนี้ คูร์ตูบี นักวิเคราะห์ด้านพลังงาน เสริมว่า อินโดนีเซียควรออกจากกลุ่มโอเปกได้แล้ว เนื่องจากสถานภาพของประเทศ ที่กลายเป็นผู้นำเข้าน้ำมัน ซึ่งมีผลประโยชน์แตกต่างจากกลุ่ม โดยที่ผู้นำเข้าน้ำมันต้องการให้ราคาลดลง แต่ประเทศผู้ส่งออกต้องการราคาที่สมเหตุสมผล หรือสูง เนื่องจากเป็นรายได้หลักของประเทศเหล่านั้น
ทั้งนี้ อินโดนีเซียเข้าร่วมกลุ่มโอเปกตั้งแต่ปี 1962 เพียง 2 ปี หลังจากมีการก่อตั้งกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันในกรุงแบกแดด แต่รัฐสภา และกลุ่มอุตสาหกรรม เรียกร้องให้รัฐบาลถอนตัวจากการเป็นสมาชิก
บ่อน้ำมันเก่าและการขาดการลงทุนในภาคน้ำมันและก๊าซผลักดันให้ผู้ผลิตน้ำมันของอินโดนีเซียลดลง ขณะที่ รัฐบาลคาดว่าผลผลิตน้ำมันรายวันเฉลี่ยในปีนี้จะเหลือเพียง 927,000 บาร์เรล ซึ่งลดลงจาก 950,000 บาร์เรล ในปี 2007