ที่บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.)พร้อมภริยา เดินทางมาสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) เพื่อความเป็นสิริมงคล ภายหลังเดินทางกลับจากการทอดกฐินสามัคคีของกองทัพอากาศ ที่ จ.บุรีรัมย์ และได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ ว่า ในส่วนการเตรียมกำลังของทางกองทัพอากาศในการสนับสนุนกำลังทางอากาศตามพื้นที่แนวชายแดน หากเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น ทางกองทัพอากาศได้ประชุมร่วมกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการกองทัพบก (ผบ.ทบ.) เพื่อวางแนวทางจำกัดขอบเขตไม่ให้สถานการณ์ลุกลามออกไป โดยเฉพาะการเจรจาระหว่างทั้ง 2 ประเทศ และคาดว่านับจากนี้ ไม่น่าจะมีสถานการณ์รุนแรงมากกว่านี้ ในส่วนการเตรียมความพร้อมกำลังทางอากาศของกองทัพอากาศนั้นมีความพร้อม ณ ที่ตั้งอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่ จ.นครราชสีมา และ จ.อุบลราชธานี ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหากทางกองทัพบกร้องขอกำลังสนับสนุนทางอากาศ หรือหากมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น ทางกองทัพอากาศพร้อมสนับสนุนกำลังโดยทันที
ส่วนสถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะการที่ พล.อ.อนุพงษ์ ระบุผ่านสื่อมวลชนว่า หากตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีและอยู่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ตนเองคงจะต้องลาออกเพื่อยุติปัญหาทั้งหมดนั้น ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า เรื่องการเมืองตนเองขออนุญาตไม่แสดงความคิดเห็น เพราะว่าขณะนี้หลายฝ่ายได้พยายามแก้ไขปัญหาอยู่แล้ว ส่วนการที่พันธมิตรฯ พยายามให้ทหารเลือกข้างนั้น พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า ทหารคงจะต้องอยู่ในกรอบของทหารและอยู่ในบทบาทที่ทหารสามารถกระทำได้ จึงไม่อยากที่จะแสดงความคิดเห็นไปมากกว่านี้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ฝ่ายทหารได้ย้ำอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะที่ผู้บัญชาการทหารบก ย้ำว่า ทหารจะไม่อยู่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอย่างแน่นอน แต่จะยืนอยู่เคียงข้างประชาชน และดูแลทุกฝ่ายเพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข ส่วนกรณีการพูดของผู้บัญชาการทหารบกนั้น ตนเองคิดว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้บัญชาการทหารบกที่ถูกสื่อมวลชนถามในขณะนั้น
ส่วนสถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะการที่ พล.อ.อนุพงษ์ ระบุผ่านสื่อมวลชนว่า หากตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีและอยู่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ตนเองคงจะต้องลาออกเพื่อยุติปัญหาทั้งหมดนั้น ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า เรื่องการเมืองตนเองขออนุญาตไม่แสดงความคิดเห็น เพราะว่าขณะนี้หลายฝ่ายได้พยายามแก้ไขปัญหาอยู่แล้ว ส่วนการที่พันธมิตรฯ พยายามให้ทหารเลือกข้างนั้น พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า ทหารคงจะต้องอยู่ในกรอบของทหารและอยู่ในบทบาทที่ทหารสามารถกระทำได้ จึงไม่อยากที่จะแสดงความคิดเห็นไปมากกว่านี้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ฝ่ายทหารได้ย้ำอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะที่ผู้บัญชาการทหารบก ย้ำว่า ทหารจะไม่อยู่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอย่างแน่นอน แต่จะยืนอยู่เคียงข้างประชาชน และดูแลทุกฝ่ายเพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข ส่วนกรณีการพูดของผู้บัญชาการทหารบกนั้น ตนเองคิดว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้บัญชาการทหารบกที่ถูกสื่อมวลชนถามในขณะนั้น