นายเพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (ชสยท.) ประชุมสหกรณ์ชาวสวนฯ 675 แห่งทั่วประเทศ เช้าวันนี้ (17 ต.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานสงเคราะห์การทำสวนยางสงขลาเขต 1 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อหามาตรการแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่กิโลกรัมละ 48 บาท ทำให้ชาวสวนยางกว่า 1 ล้านครอบครัว หรือ 6 ล้านคนเดือดร้อน เพราะชาวสวนต้องแบกภาระต้นทุนเฉลี่ยกิโลกรัมละ 52 บาท
นายเพิก กล่าวว่า แนวทางที่ ชสยท. เสนอให้ภาครัฐเข้ามาแก้ไขให้เกิดความสอดคล้องกันทั้งระบบ ที่ประชุมจึงมีมติให้ชาวสวนหยุดพักกรีดยางจากนี้ไปเป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อลดปริมาณผลผลิตที่จะเข้าสู่ตลาดยางพารา ซึ่งจะสามารถลดปริมาณการผลิตได้ 1,400,000 ตัน
นอกจากนี้ ขอให้ชาวสวนยาง ผู้รับซื้อยางและผู้ส่งออก ร่วมมือกันอย่างจริงจังชี้แจงข้อมูลจริงในเรื่องของตัวเลขการผลิต สตอกยางและปริมาณการส่งออกของผู้ประกอบการแต่ละราย เพื่อให้สามารถประเมินตัวเลขความต้องการของตลาด และจะผลิตยางเข้าสู่ตลาดในปริมาณที่เหมาะสม ที่สำคัญขอให้รัฐบาลอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ โดยไม่แทรกแซงราคายาง และหากเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจากการหยุดกรีดยางพาราให้สามารถกู้เงินจากกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางได้รายละ 30,000 บาท ซึ่งข้อเสนอทั้งหมดจะเสนอไปยังรัฐบาล เพื่อดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม
นายเพิก กล่าวว่า แนวทางที่ ชสยท. เสนอให้ภาครัฐเข้ามาแก้ไขให้เกิดความสอดคล้องกันทั้งระบบ ที่ประชุมจึงมีมติให้ชาวสวนหยุดพักกรีดยางจากนี้ไปเป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อลดปริมาณผลผลิตที่จะเข้าสู่ตลาดยางพารา ซึ่งจะสามารถลดปริมาณการผลิตได้ 1,400,000 ตัน
นอกจากนี้ ขอให้ชาวสวนยาง ผู้รับซื้อยางและผู้ส่งออก ร่วมมือกันอย่างจริงจังชี้แจงข้อมูลจริงในเรื่องของตัวเลขการผลิต สตอกยางและปริมาณการส่งออกของผู้ประกอบการแต่ละราย เพื่อให้สามารถประเมินตัวเลขความต้องการของตลาด และจะผลิตยางเข้าสู่ตลาดในปริมาณที่เหมาะสม ที่สำคัญขอให้รัฐบาลอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ โดยไม่แทรกแซงราคายาง และหากเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจากการหยุดกรีดยางพาราให้สามารถกู้เงินจากกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางได้รายละ 30,000 บาท ซึ่งข้อเสนอทั้งหมดจะเสนอไปยังรัฐบาล เพื่อดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม