นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงฐานะการคลังเดือนกันยายนที่ผ่านมา ว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 201,818 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 22,390 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.5 เนื่องจากมีรายได้จากภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิและภาษีเงินได้ปิโตรเลียมรอบครึ่งปีบัญชี 2551 ที่เหลื่อมมาจากเดือนสิงหาคม 2551 ประกอบกับการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม และอากรขาเข้าที่ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่ผ่านมา ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวน 149,799 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 1,090 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.7 เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของงบอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกองทุนและเงินทุนหมุนเวียนต่างๆ
โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,549,605 ล้านบาท สูงกว่าปีงบประมาณที่แล้ว 104,887 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.3 โดยภาษีที่จัดเก็บได้เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้ปิโตรเลียม นอกจากนี้ การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจก็เพิ่มขึ้นมากเช่นเดียวกัน
โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,549,605 ล้านบาท สูงกว่าปีงบประมาณที่แล้ว 104,887 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.3 โดยภาษีที่จัดเก็บได้เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้ปิโตรเลียม นอกจากนี้ การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจก็เพิ่มขึ้นมากเช่นเดียวกัน