นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า การที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงแรงและต้องหยุดซื้อขายชั่วคราวเป็นเวลา 30 นาที หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์ เป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาคเอเชีย จึงเป็นปัจจัยที่แพร่กระจายไปทั่วโลก ทำให้นักลงทุนขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากผลกระทบภายนอกเป็นหลัก
นางภัทรียา กล่าวว่า ตลาดหุ้นในต่างประเทศบางแห่งลดลงร้อยละ 8-9 แต่บางแห่งลดลงมากกว่าร้อยละ 10 ขณะที่ตลาดหุ้นไทยก็อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งในในช่วงที่ใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ ตลท.ได้ให้ข้อมูลนักลงทุน และรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดต่างประเทศ โดยการหยุดพักการซื้อขาย เพื่อให้นักลงทุนมีเวลา ตัดสินใจและทบทวนว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ซึ่งเท่าที่สังเกต หลังจากพักการซื้อขายแล้ว ดัชนีก็สามารถปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย หลังจากก่อนหน้านี้นักลงทุนต่างตกใจและเทขายก่อน
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า ต้องรอดูภาวะต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในยุโรป สหรัฐฯ และการเมืองในประเทศที่ยังส่งผลและนักลงทุนทุกคนกำลังรอดูสถานการณ์ โดยขอให้นักลงทุนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะปัจจัยพื้นฐานของไทยยังไม่มีปัญหา สถาบันการเงินยังแข็งแกร่ง ดังนั้น อยากให้นักลงทุนคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ
นางภัทรียา กล่าวว่า ตลาดหุ้นในต่างประเทศบางแห่งลดลงร้อยละ 8-9 แต่บางแห่งลดลงมากกว่าร้อยละ 10 ขณะที่ตลาดหุ้นไทยก็อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งในในช่วงที่ใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ ตลท.ได้ให้ข้อมูลนักลงทุน และรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดต่างประเทศ โดยการหยุดพักการซื้อขาย เพื่อให้นักลงทุนมีเวลา ตัดสินใจและทบทวนว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ซึ่งเท่าที่สังเกต หลังจากพักการซื้อขายแล้ว ดัชนีก็สามารถปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย หลังจากก่อนหน้านี้นักลงทุนต่างตกใจและเทขายก่อน
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า ต้องรอดูภาวะต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในยุโรป สหรัฐฯ และการเมืองในประเทศที่ยังส่งผลและนักลงทุนทุกคนกำลังรอดูสถานการณ์ โดยขอให้นักลงทุนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะปัจจัยพื้นฐานของไทยยังไม่มีปัญหา สถาบันการเงินยังแข็งแกร่ง ดังนั้น อยากให้นักลงทุนคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ